จากสถานการณ์การศึกษาของชาติ ที่ล่าสุดได้มีการแถลงข่าวมาจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่าได้มีการสำรวจ ล่าสุดพบผลลัทธ์ว่า “เด็กไทยอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้” ยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ทั้งนี้สพฐ. ไม่ได้นิ่งนอนใจได้ส่งเสริมให้มี การจัดการเรียนการสอนแบบแจกลูกสะกดคำและส่งเสริมแนวทางการจัดการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับการพัฒนาสมอง (Brain Based Lerning : BBL)เกี่ยวเนื่องกับเรื่องนี้ทาง โครงการภาคีพูนพลังครู ดำเนินงานโดยองค์กรภาคีเครือข่ายดำเนินการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาและพัฒนาครู จำนวน 23 ภาคี (อ่านรายละเอียดได้ที่ https://goo.gl/wTB23i) ได้รวมครูในเครือข่ายต่างๆ มาร่วมแบ่งปัน ความรู้และทักษะ และร่วมเรียนรู้ ในเวทีพูนพลังครูครั้งที่ 1 ครูผู้สร้างคุณลักษณะนิสัยที่ดี ทำให้พบว่ามีครูหลายๆ ท่าน มี HOW TO ในการเรียนการสอนแบบใหม่ๆ ที่ได้ผล หนึ่งในนั้นคือ “ครูศิริลักษณ์ ชมพูคำ” จากโรงเรียนบ้านหินลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม ภายใต้ศูนย์พัฒนาวิชาการเพื่อการเรียนรู้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่มี HOW TO การแก้ปัญหาเด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ทั้งโรงเรียนด้วยจิตอาสา ด้วยบันได 6 ขั้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการสนับสนุนของสพฐ.ในขณะนี้ ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่เพื่อนครูทั่วประเทศได้ร่วมเรียนรู้และนำไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับนักเรียนของตนเอง มูลนิธิสยามกัมมาจล ขอนำเสนอเรื่องราวของครูท่านนี้สู่สาธารณะชน
ครูศิริลักษณ์ ชมพูคำ หรือ แม่ตุ๋ม ของเด็กๆ ที่มีความเชื่อมั่นว่า “ทักษะการอ่านเขียนคือพื้นฐานสำคัญในการเรียนรู้ด้านอื่นๆ เป็นเครื่องมือที่จะทำให้นักเรียนได้พัฒนาตนเองและป้องกันไม่ให้ออกนอกลู่นอกทางหลุดไปสู่หลุมดำของสังคม” และกว่า 20 ปี ของการเป็นครูสอนวิชาภาษาไทยชั้นประถมศึกษา ระดับ ป.4-ป.5 ครูศิริลักษณ์สังเกตเห็นว่า ในแต่ละห้องจะมีนักเรียนที่มีปัญหาในการอ่านเขียนเกินครึ่ง และในจำนวนนั้นเป็นเด็กพิเศษที่เรียกว่า LD รวมอยู่ด้วย ครูศิริลักษณ์มองเห็นปัญหาและไม่ได้นิ่งนอนใจ เริ่มแก้ปัญหาด้วยการสอนเพิ่มเติม ให้กลุ่มที่มีปัญหาการอ่านเขียน ทั้งในห้องเรียนและนอกเวลา แต่ครูพบว่าการมาฝึกฝนเด็กในช่วงประถมปลายทำให้เด็กสูญเสียโอกาสที่จะเรียนรู้ตั้งแต่เริ่มเรียนและการสอนที่ไม่ต่อเนื่องเด็กจะมีพัฒนาการล่าช้ามาก
เมื่อ ครูตุ้มเห็นว่า
การอ่านไม่ออกเขียนสะกดคำไม่ได้
เป็นปัญหาสำคัญเร่งด่วนต้องแก้ให้เร็วที่สุด ครูจึงออกแบบเครื่องมือ
ใช้ทำกิจกรรมเพื่อตอบโจทย์ให้ตรงกับปัญหา
เพื่อแก้ปัญหานี้
ครูศิริลักษณ์คิดค้นวิธีด้วย
การใช้บันได 6 ขั้นสร้างการเรียนรู้ร่วมกับการชักชวนนักเรียนที่มีทักษะด้านภาษาไทยค่อนข้างดีมาเป็นจิตอาสา
เพื่อให้มาช่วยสอนน้องๆ ตั้งแต่ป. 2 และเพื่อนๆ ในชั้นเดียวกัน
ก่อนจะมาทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง
ครูตุ้มจะเริ่มอบรมและฝึกทักษะการเป็นพี่เลี้ยงให้นักเรียนจิตอาสาเหล่านี้ก่อน
ทั้งวิธีการสอนด้านการอ่านเขียน และการสร้างลักษณะนิสัยการเป็นผู้ให้กับนักเรียนกลุ่มที่มีความบกพร่องด้านการเรียนรู้
เพื่อให้นักเรียนผู้สอนและนักเรียนพิเศษมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกันและให้จับคู่เป็นบัดดี้คอยช่วยให้กันในทุกเรื่องกระตุ้นให้เด็กพิเศษเกิดการเปลี่ยนแปลงได้เร็วขึ้น
ผลพลอยได้เด็กอาสาก็จะเก่งขึ้นและมีจิตใจที่อ่อนโยนขึ้นด้วย
ครูตุ้มเล่าต่อว่าการออกแบบกระบวนการ
6 ขั้น พัฒนาให้อ่านออกเขียนได้ มีจุดเด่นคือ
ในแต่ละขั้นจะซอยย่อยเนื้อหาออกเป็นขั้นเริ่มจากง่ายไปหายากและซับซ้อนยิ่งขึ้น
ทำให้ครูกำหนดเป้าหมายการพัฒนานักเรียนตามขั้นตอนที่ละขั้นโดยไม่ข้ามขั้น เห็นความสำเร็จง่ายนักเรียนจะเกิดแรงบันดาลใจในการเรียนเมื่อประสบผลสำเร็จ
นักเรียนจะรู้สึกภูมิใจในตัวเองมีความมั่นใจว่าตัวเองก็สามารถเรียนรู้ได้
ครูสามารถวัดผลประเมินผลความก้าวหน้าของนักเรียนในแต่ละขั้นอย่างชัดเจน
และนักเรียนก็มีแรงบันดาลใจในการเรียนขั้นต่อไปด้วยความกระตือรือร้น
มีความสุขมีความคาดหวังได้อย่างมั่นใจว่าตนเองจะต้องทำได้โดยไม่รู้สึกว่ายากเกินไป
บันได 6 ขั้น มีดังนี้
ขั้นที่ 1 ฝึกอ่านทุกวันในช่วงพักกลางวันเพื่อความต่อเนื่อง
โดยใช้หนังสือเรียน นิทาน คำ อักษรไทย
ขั้นที่ 2
ฝึกการอ่านควบคู่กับการเขียน
โดยใช้อักษรไทย คำ ประโยค นิทาน ขั้นที่
3 การฝึกคัดลายมือ
นอกจากทำให้ลายมือสวยงามแล้วยังเป็นการช่วยในการจดจำรูปคำต่างๆ ได้มากขึ้นด้วย ขั้นที่
4 การวาดรูป ประกอบคำ
ด้วยความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และสนุกไปกับงาน
โดยมีการจำแนกคำออกมาเพื่อให้นักเรียนเข้าใจการผสมคำมากขึ้น
ขั้นที่ 5
การนำคำมาแต่งเป็นประโยคสื่อสารรูปหรือเหตุการณ์จริง
เช่น ใคร + ทำอะไร , ใคร+ทำอะไร+กับใคร ขั้นที่ 6 การเขียนคำตามภาพวาดโดยให้นักเรียนมีอิสระตามความคิดของนักเรียนเอง
โดยกระบวนการ 6 ขั้นนี้ เด็กๆ
จะต้องผ่านไปทีละขึ้นโดยมีนักเรียนอาสาและครูตุ้มคอยช่วยกันและเมื่อครบ 6 ขั้นแล้ว ก็เริ่มสอนขั้นที่ 1 - 6 ใหม่จากขยับยากขึ้นมาทีละน้อยๆ
ทำอย่างนี้ทำให้เห็นผลงานที่ออกมามองเห็นเด็กมีความภูมิใจในตัวเองเพราะการอ่านออกเขียนได้
ตัวอย่าง
เด็กชายศิรินันท์แสงห้าว หรือ
น้องเดียว เป็นนักเรียนพิเศษที่ครูรับเข้ามาดูแลตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ เป็นคนเฉื่อยชาการรับรู้ช้า
เมื่อเข้าร่วมกิจกรรมทำให้ผลการอ่านการเขียนเริ่มพัฒนาดีขึ้นเมื่อน้องเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
4 น้องเดียวสามารถอ่านหนังสือในบทเรียนได้ การเขียนลายมือสวย
สะอาด การเขียนอิสระใช้ภาษาสละสลวยมากขึ้น เรื่องราวไม่วกวน สื่อความหมายได้ชัดเจน
ใช้ภาษาถูกต้อง และพี่จิตอาสาคือ
เด็กหญิงช่อผกา
ทินน้อย
ที่ดูแลน้องเป็นอย่างดี
ส่วนผู้ปกครอง
นางจันทร์ขาลเกตุ ผู้ปกครองเด็กหญิงกฤตยา ขาลเกตุ
ได้เห็นพัฒนาของลูกอย่างชัดเจน ร่วมสะท้อนการสอนของครูว่า “ลูกเข้าเรียนชั้นอนุบาล
1
ที่โรงเรียนบ้านหินลาด ซึ่งปกติน้องฝันจะเป็นคนที่สมองช้า เอาแต่ใจตัวเอง
ขี้หงุดหงิด หน้าขี้โมโห ติดอ่างพูดช้า มีปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้
เพื่อนที่โรงเรียนจะไม่ชอบน้องฝันแต่ทางบ้านก็พยายามแก้ไขสอนให้เปลี่ยนแปลงตัวเอง
แต่ก็ไม่ดีขึ้นจนมาระยะหลังเห็นความเปลี่ยนแปลงมากขึ้น หลังน้องฝันไปเรียนพิเศษกับคุณครูตุ๋มช่วงพักเที่ยงทุกวัน
ทำให้น้องอ่านออกเขียนได้ และสามารถเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์น้องฝันได้ดิฉันดีใจมากที่ลูกมีผลการเรียนที่ดีขึ้น
เป็นคนอารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส มีความรับผิดชอบมากขึ้น
และตอนนี้น้องฝันเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
สามารถอ่านหนังสือในชั้นเรียนได้แล้ว เขียนหนังสือลายมือสวย สะอาด
ต้องขอบคุณคุณครูศิริลักษณ์ ชมภูคำ ที่เอาใจใส่ดูแลจนน้องฝันดีขึ้น
และตอนนี้น้องฝันบอกว่าน้องจะช่วยดูแลนักเรียนพิเศษรุ่นน้องช่วยคุณครู
จะทำให้น้องอ่านออกเขียนได้เหมือนคุณครูดูแลน้องฝันค่ะ”
ครูตุ้มปิดท้ายว่า
“กระบวนการ 6 ขั้นนี้นอกจากจะทำให้เด็กนักเรียนอ่านออก เขียนได้ อย่างได้ผลแล้ว
ยังทำให้นักเรียนได้ฝึกตัวเองในเรื่องระเบียบวินัย ความรับผิดชอบ ความขยัน
ความภูมิใจในความสำเร็จของตนเอง กว่าจะจบประถมศึกษาปีที่
6
เชื่อว่านักเรียนจะมีความสมบูรณ์ทั้ง ทักษะการเรียนรู้ทักษะชีวิต
และมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ติดตัวแบบถาวร”
มูลนิธิสยามกัมมาจล
ขอร่วมยกย่องและเชิดชูในความเป็นครูที่มีอยู่เต็มหัวใจของ “ครูศิริลักษณ์ ชมภูคำ”
ครูแห่งโรงเรียนบ้านหินลาดคนนี้ ที่รังสรรค์นวัตกรรมการเรียนการสอนใหม่ๆ
เพื่อตอบโจทย์ให้นักเรียนของตนพ้นจากหลุมดำทางการศึกษาได้ด้วยตนเอง.
ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่
www.scbfoundation.com
เผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆดังนี้
|
หัวข้อข่าว : |
แก้ปัญหา'เด็กอ่านไม่ออก-เขียนไม่ได้'บันได 6 ขั้น-นวัตกรรมใหม่ที่ได้ผล ขอขอบคุณหนังสือพิมพ์บ้านเมือง ประจำวันจันทร์ที่ 11 เมษายน 2559 |