วันที่ 27 พฤษภาคม 255 ณ ศูนย์ฝึกอบรมธนาคารไทยพาณิชย์ หาดตะวันรอน ชลบุรี
การ
ขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนห้วยยอดดำเนินการผ่าน
“นโยบาย” การบริหารงาน 4 ฝ่าย โดยทุกฝ่ายต้องนำหลักคิดของปรัชญาฯ
มาบูรณาการในการบริหารงานทุกโครงการ และทุกกลุ่มสาระ
จนเด็กมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น แต่คุณลักษณะพึงประสงค์ลดลง
โรงเรียนจึงให้กลุ่มสาระใช้ “โครงงานจิตอาสา+หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” พร้อม
กับดึงผู้ปกครอง และชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลชุมชน วัด โรงเรียน
ทำให้ได้ผลสัมฤทธิ์ดีขึ้น วัดได้จากคุณลักษณะพึงประสงค์ของนักเรียนสูงขึ้น
การ ขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนห้วยยอด ตอนแรกโรงเรียนคิดว่าเป็นเรื่องของเกษตรอย่างเดียว จึงทำแต่เรื่องเกษตร โดยแบ่งพื้นที่ในโรงเรียน 25 ไร่จัดทำเป็นเรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่ แต่หลังจากได้พบคุณทรงพล เจตนาวานิชย์ กับมูลนิธิสยามกัมมาจลลงไปศึกษาพูดคุยพบว่า เศรษฐกิจ พอเพียงไม่ใช่แค่เรื่องเกษตรเท่านั้น แต่เป็นทุกเรื่องที่เป็นวิถีชีวิตประจำวัน ตั้งแต่บ้านมาถึงโรงเรียน ล้วนเป็นหลักคิดปรัชญาฯ ทั้งสิ้น เป็น เรื่องที่โรงเรียนต้องเพิ่มเติมให้ครบกระบวนการ ท่านผู้อำนวยการจึงวางนโยบายไว้ในการบริหารงานทั้ง 4 ฝ่าย โดยทุกฝ่ายจะต้องนำหลักคิดของปรัชญาฯ มาบูรณาการในการบริหารงานทุกโครงการ เรามีหน้าที่ดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะดูแลงานวิชาการ เราก็ต้องนำมาบูรณาการให้เข้ากับกลุ่มสาระต่างๆ จึงต้องวางนโยบายให้ทุกกลุ่มสาระจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทย อังกฤษ คณิตศาสตร์
ใน
ช่วงแรกทุกกลุ่มสาระจะบอกว่าทำไม่ได้
เพราะไม่น่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกันได้
แต่คุณทรงพลและคณะได้ให้ความรู้จนกระทั่งครูเริ่มเข้าใจ
และสามารถจัดการเรียนการสอนได้
ปรากฏว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นกว่าเดิม
เพราะมีหลายสิ่งที่ทำให้เด็กเกิดความกระตือรือร้น ใฝ่เรียนรู้
นอกจากการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนแล้ว
เรายังต้องจัดฐานการเรียนรู้ด้วย
ซึ่งเป็นมาตรฐานตัวชี้วัดที่โรงเรียนต้องมี เช่น ฐานภูมิปัญญาท้องถิ่น
ธนาคารโรงเรียน สภานักเรียน ศิลปะ เพื่อให้นักเรียนเรียนรู้เพิ่มเติม
ทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นทุกปี
แต่
แม้จะมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น แต่เรากลับค้นพบว่า
“คุณลักษณะพึงประสงค์” กลับสวนกระแสคือแย่ลง โรงเรียนเริ่มสกปรก
นักเรียนเข้าห้องเรียนช้า เป็นต้น
เราเลยคิดโครงการการจัดการเรียนการสอนขึ้นมาใหม่
โดยกลุ่มสาระใดที่สามารถจัดการเรียนการสอนโดยใช้โครงงานจิตอาสาได้ก็ให้ใช้
เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ด้านคุณลักษณะพึงประสงค์ โดยนำหลักปรัชญาฯ
มาดำเนินการในเรื่องนี้
พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากนักเรียนผู้ปกครองและชุมชนเข้ามาด้วย เป็น
“กลวิธี” ดึงผู้ปกครองและชุมชนให้เข้ามามีส่วนร่วมกับโรงเรียนมากขึ้น
เพราะปัจจุบันพบว่าเด็กสมัยนี้ไม่ค่อยมีความใกล้ชิดกับผู้ปกครอง ห่างเหิน
ส่งผลให้นักเรียนหนีไปเล่นเกม บ้างก็ติดยาเสพติด เพราะมีเวลาว่างมาก
แต่เมื่อเราได้ทำ “โครงการจิตอาสา” ที่
โรงเรียนเชิญผู้ปกครองมาพูดคุยทำความเข้าใจในการจัดการเรียนการสอนแล้ว
เชิญชุมชนเข้ามาด้วย
เพราะกิจกรรมบางกิจกรรมถ้านักเรียนทำแล้วชุมชนส่งเสริมจะทำให้กิจกรรมนั้น
บรรลุผลยิ่งขึ้น โดยโรงเรียนจะจัดอบรมกลุ่มนักเรียนที่ทำโครงงาน เช่น
โครงงานเรื่องภูมิปัญญาพ่อพอเพียง ที่เด็กๆ
นำเอาตะขาบดองกับเหล้าขาวมาเพื่อใช้รักษาบาดแผลให้หายได้เป็นภูมิปัญญาชาว
บ้าน เด็กบางกลุ่มจับกลุ่มประมาณ 10 คนศึกษาเรียนรู้
โดยเราจะสอนนักเรียนก่อนว่าเราจะทำอย่างไรถ้านักเรียนสนใจ
จะถามว่าที่บ้านใครมีอะไรที่จะสอนเพื่อนบ้าง เช่น
เด็กบางคนบ้านทำขนมขายก็นำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน ก่อนมานำเสนอ
แล้วให้เด็กแต่ละกลุ่มคิดว่าจะทำอะไร จากนั้นนักเรียนจะไปศึกษาความรู้
ตรงนี้จะทำให้นักเรียนใฝ่เรียนใฝ่รู้มากขึ้น
แม้ว่าคนในชุมชนบางคนจะไม่ยอมถ่ายทอดให้
เพราะเขาถือว่าขนมบางอย่างถือเป็นสูตรลับ
แต่นักเรียนก็มีความพยายามกระตือรือร้นใฝ่เรียนใฝ่รู้ต้องหาคนอื่นให้ความ
รู้แทน หรือบางคนไม่อยากให้วิชาเขาสูญหาย เขาจะได้ถ่ายทอดให้กับนักเรียน
หรือนักเรียนบางกลุ่มได้ไปเล่นกับน้องเอาความรู้ที่ตัวเองมีอยู่ไปถ่ายทอด
ให้น้อง เช่น เรื่องกฎหมายเล็กๆ ถ้าเรียนในห้องเรียนก็ไม่อยากฟังคุณครูสอน
แต่พอรุ่นพี่ไปนำเล่นร้องรำทำเพลง ให้ความรู้เล็กๆ น้อยๆ เด็กจะสนุกสนาน
แล้วยังชื่นชมพี่อยากให้มาสอนอีก
ผลสะท้อนกลับคือ นักเรียนที่ไปสอนน้องก็จะได้รู้ถึงความยากลำบากของครูที่มาสอน ทำให้บางคนฉุกคิดแล้วนำมาปรับนิสัยของตัวเอง เช่น
วิชาภาษาไทยให้ทำโครงงานการละเล่นพื้นบ้าน
เขาจะมีความชื่นชมที่ได้ชวนน้องเล่น เช่น การสานตัวนก
ปลาตะเพียนที่เขาไปเรียนรู้จากชุมชน แล้วนำมาสอนรุ่นน้อง
จากการที่นักเรียนได้นำเสนองาน
จะเห็นได้ว่าแววตาของนักเรียนที่นำเสนองานมีความภาคภูมิใจที่ได้ทำประโยชน์
และสิ่งที่ตามมาคือความใกล้ชิดกับผู้ใหญ่เกิดความรัก ความกตัญญู
เด็กจะภาคภูมิใจในตัวเอง ทำให้ได้วัตถุประสงค์ที่ขาดไปกลับคืนมา
โดยที่เราไม่ต้องสอนเอง เพราะว่าทักษะของวิชาการในโรงเรียนสอนให้อยู่แล้ว
เราฝึกให้นักเรียนไปสอนทักษะในชุมชนบ้าง
กระบวนการในการศึกษาของเด็กจะดูว่าแต่ละชุมชนของตัวเองนั้นมีอะไรดีที่จะไม่
อยากให้สูญหาย และจะได้ฝึกเรื่องวิชาชีพ
เพราะเด็กต้องฝึกความอดทนในการเข้าหาผู้ใหญ่เพื่อจะนำอาชีพเหล่านั้นมาใช้
กับตัวเอง แล้วก็จะเกิดทักษะชีวิตในการแก้ปัญหาได้
ยิ่งโรงเรียนเป็นศูนย์การเรียนรู้เรายิ่งต้องนำนักเรียนสู่อาเซียนด้วย
จึงต้องบูรณาการเข้ากันให้ได้ เพราะเป็นเรื่องของ 3
เสาหลักในเรื่องของการเมือง ความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ และวัฒนธรรม
ตรงนี้เราต้องบูรณาการสู่การเรียนการสอนได้ด้วย
โครงงานนี้จะได้ทุกเรื่องแม้กระทั่งโรงเรียนมาตรฐานสากล
เพราะว่าเรื่องภาษาต้องมีการนำหลักคิดไปบูรณาการด้วย
เราจัดอาจารย์ฝรั่งที่เขาอยู่เมืองไทยมาหลายปี
เขานับถือพระเจ้าแผ่นดินของเรา และชื่นชมอยู่แล้ว
จึงสามารถเป็นแบบอย่างให้นักเรียนได้
โรงเรียน จะมีอาคารสำหรับศูนย์การเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แต่ศูนย์นี้ไม่ได้พูดถึงเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีห้องอาเซียนที่เราให้นำหลักปรัชญาฯ มาใช้ด้วย ซึ่งครูจะจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้าเอง สืบค้นจากภาพ เราจะมีห้องไอซีทีอยู่ด้วย ความรู้ต่างๆ ให้นักเรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้ได้ และมีห้องเรียนสำหรับภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารด้วย ครูอังกฤษกับครูจีนให้นำหลักคิดมาบูรณาการ แต่ถ้าเป็นครูไทยเราจะให้ทำจิตอาสาด้วย แต่ครูฝรั่งเรายังไม่ทำ เราทำเรื่องภาษาก่อน