การอ่าน

หนังสือยังสามารถพัฒนาความรู้ของประชาชน หนังสือทุกเล่มที่เราอ่านใฝ่เรียนรู้เราควรจะรักษาให้คงสภาพดีๆละ เพราะหนังสือเหล่านี้เป็นของคนที่บริจาคมาที่หอสมุด และที่สำคัญ สมมุติว่าถ้าเราชอบหน้าใดหน้าหนึ่งของหนังสือ เราห้ามฉีกเป็นอันขาดนะ เราควรมีความรับผิดชอบและความซื่อสัตย์ในตนเองเสมอนะ แค่นี้ก็ไม่เป็นที่เดือดร้อนของใครแล้วละ ฉันเองก็ได้อ่านเรื่องหนึ่งซึ่งฉันชอบเป็นพิเศษคือ ดำเนินชีวิตด้วยเศรษฐกิจพอพียง ทำให้ฉันรู้สึกถึงการใช้ชีวิตที่มีรูปแบบที่เรียบง่ายและประหยัดถึงเราฐานะจะยากจนก็ทำได้เนื่องจากไม่ต้องลงทุนมาก การใช้เงินมีระบบมากขึ้น ส่วนคนที่มีฐานะร่ำรวยก็ทำได้เช่นกัน แถมพอมีพอกินด้วยละ หลังจากที่ฉันอ่านหนังสือเรื่อง ดำเนินชีวิตด้วยเศรษฐกิจพอเพียง ฉันก็ได้ไปเล่ากับเพื่อนๆใกล้บ้านของฉันและครอบครัว ผลปรากฏว่า เพื่อนๆชอบกันมากเลย หลังจากเมื่อก่อนฉันไปหอสมุดคนเดียว ก็มีเพื่อนสัก 2-3 คน มาอ่านด้วยกัน ฉันดีใจมากเลยนะที่เพื่อนใกล้บ้านของฉันหันมารักการอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ และเวลาที่ฉันไปหอสมุดทุกครั้ง ฉันกับเพื่อนๆก็นำข้าวที่ทำมาเองมารับประทานที่หอสมุดเสมอๆ ฉันเป็นคนขี้หนาวฉันจึงพกเสื้อกันหนาว เนื่องจากหอสมุดเปิดแอร์ ส่วนเพื่อนทนได้ ฉันคิดว่าถ้าประชาชนหันมาอ่านหนังสือมากขึ้นฉันเชื่อว่าเยาว์ชน จะมีความรู้รอบตัวเพิ่มมากขึ้น และไม่แน่นะเยาว์ชนไทยสามารถนำความรู้ไปสู้กับเด็กต่างประเทศและอาจนำชื่อเสียงสู่ประเทศเราได้ สภาพแวดล้อมในตอนนี้น่าตกใจอย่างยิ่งเยาว์ชนติดเกมบางทีถึงขั้นหนักไม่ใส่ใจการเรียน มั่วสุ่มแต่สิ่งที่มันผิดๆ แต่ถ้ากลับกันเยาว์ชนอ่านหนังสือมากขึ้นผู้ปกครองสนับสนุนแต่สิ่งดีๆ ไม่แน่เยาว์ชนจะดีขึ้นได้ สมัยก่อนกว่าจะได้เรียนหนังสือมันยากนะ เนื่องจากมีแต่ลูกขุนนางและคนที่เป็นใหญ่เป็นโตได้เรียนเทานั้น แต่ยังโชคดีที่รัชกาลที่ 5 ได้ทำการเปิดโรงเรียนสอนให้กับบุคคลทั่วไป โดยสมัยรัชกาลที่ 5 พระสงฆ์เป็นคนสอนให้กับประชาชน และเมื่อก่อนหอสมุดเป็นแหล่งรวบรวมความรู้ ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และคนรวย สามารถเข้าได้นะ และเมื่อนักเรียน-นักศึกษา ไม่เข้าใจวิชานั้นๆ ก็จะมาหาความรู้เพิ่มเติมจากหอสมุด มีคนว่ากันว่าหนังสือสามารถสื่อความเข้าใจถึงคนอ่านได้ดีเลยทีเดียวค่ะ