“โครงการประชุมเชิงปฏิบัติการเสริมพลังผู้บริหารศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา”
วันที่ 27 พฤษภาคม 255 ณ ศูนย์ฝึกอบรมธนาคารไทยพาณิชย์ หาดตะวันรอน ชลบุรี
อาจารย์
สุทธิรัตน์ สอนรายวิชาศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง เป็นรายวิชาที่ให้เด็กได้คิด
และค้นคว้าข้อมูลอย่างอิสระ เน้นให้เด็กมีความภูมิใจในตัวเอง
รู้จักตัวเองให้มากขึ้น โดยให้แนวคิดว่า “ถ้าเด็กรู้จักและรักตัวเองแล้ว
เขาก็จะรักคนรอบข้าง และครอบครัวของเขามากขึ้น
จากนั้นก็จะนำไปสู่ชุมชนและสังคมต่อไป” โดยใช้วิธีกระตุ้นให้เด็กได้คิด
ค้นคว้า และลงมือทำ มากกว่าที่จะให้เด็กท่องจำ เช่น
การตั้งคำถามให้เด็กได้หาคำตอบจากเรื่องใกล้ตัว “ ที่ผ่านมามีอะไรที่ทำแล้วภูมิใจ ทำไม และทำอย่างไร”
เป็นตัวกระตุ้นให้เด็กภูมิใจในสิ่งที่ตนเองทำ เพื่อนๆ ในห้องยอมรับ
ตัวผู้เล่าเองก็รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า และอยากจะทำความดีเพื่อสังคมต่อไป
การ
ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนห้วยยอด เริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ.
2548 จริง ๆ แล้วใช้มาก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่เข้าใจความหมายมากนัก
และใช้จริงเมื่อปี พ.ศ. 2550
เมื่อได้รับป้ายสถานศึกษาพอเพียงและทำความเข้าใจเรื่อยมา
จนกระทั่งเกิดการรู้แจ้งอย่างชัดเจนในเรื่องของ best practices
“การออกแบบการเรียนรู้” :
ได้รับมอบหมายจากโรงเรียนให้สอนวิชาเกี่ยวกับโรงเรียนมาตรฐานสากล
ซึ่งเป็นวิชาใหม่ เรียกว่า “วิชาการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง” อยู่ในกลุ่มวิชา
IS ซึ่งมีอยู่ 3 รายวิชา นำเรื่องนี้มาทำกับนักเรียนที่จะเป็น best
practices ในอนาคต เพราะเป็นวิชาที่ให้ศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเองอย่างอิสระ
เด็กอยากทำอะไรทำ อยากคิดอะไรคิด
แต่ต้องเป็นความคิดที่เริ่มจากว่าคุณมีปัญหาอะไรก่อน และตั้งสมมติฐานขึ้นมา
สอนให้เด็กได้คิด ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องการอยู่พอดี
ให้เด็กไปศึกษาค้นคว้า
เราทำหน้าที่ตั้งประเด็นหรือคอยกระตุ้นให้เด็กได้คิด ได้พูด
และได้ทำอยู่ตลอด
ตั้งคำถามให้เด็กรู้ตัวเองก่อน ยกตัวอย่างว่า “ที่ผ่านมามีสิ่งใดที่นักเรียนทำแล้วภูมิใจมากที่สุด ทำไมถึงภูมิใจ และทำอย่างไรถึงภูมิใจ” เรา
จะไม่บอกเด็กว่าได้ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาทำกิจกรรมนั้นแล้ว
จากนั้นฝึกให้เด็กเขียน แล้วนำมาเล่าสู่กันฟัง
หลังจากนั้นให้ออกมาพูดหน้าห้องเรียน
เด็กได้บอกเล่าความภูมิใจของเขาที่ไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลย ยกตัวอย่าง
เด็กนักเรียนคนหนึ่ง “ในอดีตสิ่งที่เขาภูมิใจมากที่สุด ตอนเขาอยู่ ป.6 อันนี้สอนเด็กม.5 เขาสอบ NT ได้
ที่ 7 ของประเทศ
ครูจะคอยถามกระตุ้นให้เด็กนักเรียนตอบถึงกระบวนการของแต่ละคน
เด็กจะมีความรู้สึกว่ามีความสุขกับการได้เรียนวิชานี้ เพื่อนเกิดการยอมรับ
ใช้วิธีการกระตุ้น การต่อยอดให้เด็กคิดได้เรื่อย ๆ ให้คิดอย่างอิสระ
ไม่ปิดกั้นความคิดของเด็ก หลังจากนั้นก็จะเป็นจิตอาสา
จากที่เขาคิดได้แล้วว่าเขาจะทำอะไร
สู่กิจกรรมจิตอาสาเด็กมีกิจกรรมที่จะทำต่อไป
ถ้าทำได้จะเป็นการส่งเสริมให้เด็กคิดเป็น เริ่มจากคิดก่อน และทำ
เขาก็มีความสุขจากกิจกรรมที่เขาทำจากชุมนุมที่ผ่าน ๆ มา
เพราะว่าเขาได้คุยกับเพื่อน ๆ ได้บอกเรื่องราวในอดีตที่เขาภูมิใจ
มีเด็กนักเรียนอีกคนเขาบอกว่า ตอนเขาอยู่อนุบาล
เขาภูมิใจมากที่เขาขี่จักรยานได้”
ราย
วิชา IS ย่อมาจาก Independent Study หรือ การศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง มี 1 -
3 วิชา ซึ่งเป็นรายวิชาของโรงเรียนมาตรฐานสากล
โรงเรียนที่เป็นโรงเรียนมาตรฐานสากลต้องเริ่มสอนวิชานี้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555
ธรรมชาติวิชาคือ ตอนแรกต้องการให้เด็กตั้งปัญหา สมมติฐาน
เสร็จแล้วก็ศึกษาค้นคว้า คือ IS 1 หลังจากนั้นก็มานำเสนอผลงาน เรียกว่า
IS 2 จากเรื่องที่เด็กคิด เด็กนำเสนอสิ่งที่เด็กเรียนรู้มา ก็นำสู่สังคม
เป็นจิตสาธารณะ เป็น IS 3
เรา จะพาไปเรื่อยๆ ให้เด็กพาทำเรื่อย ๆ แต่เราไม่บอกเขา ต้องการให้เด็กค้นคว้าด้วยตัวเอง ตลอด รายวิชา IS1 - 3 จะเชื่อมโยงไปด้วยกัน ต้อง IS 1 ก่อนแล้วไป 2 - 3 ตัว 2 กับ 3 จะไปพร้อมๆ กัน ควบคู่กันได้ ภาคเรียนที่ 1 จะเป็น IS 1 หนึ่งภาคเรียน เด็กนักเรียนอยากจะรู้อะไร ตั้งคำถาม เราให้เด็กเรียนรู้เรื่องใกล้ตัวก่อน ต่อไปก็ IS 2 เด็กก็จะรู้จักตัวเองมากขึ้น ถ้า IS 3 อาจจะมีการขึ้นเว็บไซต์เผยแพร่ เวลาที่มีงานวัด เด็กก็จะไปช่วย เพราะคำว่าจิตอาสานั้นฝังลึกลงไปในจิตใจของเด็ก มีความศรัทธา เป็นอุปนิสัยพอเพียง เด็กเขาจะมาเล่าให้ฟังว่าเวลาที่เขาทำแล้วเขามีความสุข ที่เราสอนเพราะเราก็ต้องการตัวนั้น