นางสาวทิพปภา เวียงกุมภา (จ๋า) อายุ 17 ปี ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนแม่อุสุวิทยา (วิทย์ - คณิต)
โครงการการศึกษาพันธุ์ข้าวพื้นเมืองหมู่บ้านในตำบลแม่อุสุ อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก
สัมภาษณ์วันที่ 18 มกราคม 2563
ถามให้แนะนำตัวเอง ชื่อเล่น ชื่อจริง นามสกุล?
ตอบ ชื่อนางสาวทิพปภา เวียงกุมภา อายุ 17 ปี ชื่อเล่นจ๋า เรียนที่โรงเรียนบ้านแม่อุสุวิทยา ม.5 แผนวิทย์-คณิต
ถามทำไมถึงเลือกเรียนวิทย์-คณิต?
ตอบ แม่อยากให้เรียน หนูชอบเรียนวิชาภาษาไทยและวิชาชีวะตั้งแต่เด็ก ตอนแรกชอบครูภาษาไทย ครูสอนสนุกและสอนดีมาก เวลาเรียนคาบอื่นเบื่อๆ พอเรียนภาษาไทยสนุกขึ้น พอเลื่อนชั้น ไม่ว่าครูจะเปลี่ยนเป็นคนไหน ก็รู้สึกว่าชอบภาษาไทยเหมือนเดิม วิชาวิทยาศาสตร์ก็เหมือนกันคือ ครูที่สอนเป็นครูประจำชั้น และใจดีมากกับพวกหนู พอขึ้น ม.ปลาย ชอบวิชาชีววิทยาเพราะ เกี่ยวกับธรรมชาติ หนูสนใจธรรมชาติ ได้เข้าป่าสังเกตเห็นต้นไม้แมลงเล็กๆ ชอบ และมีความสุข
ถามกิจกรรมอะไรที่ทำแล้วมีความสุขบ้าง?
ตอบ อะไรที่ได้ลงมือทำก็ทำให้มีความสุขหมด ทำวิจัยก็มีความสุข ได้พัฒนาตัวเอง บางครั้งเครียดบ้าง หรือบ้างครั้งอาจจะไม่เข้าใจ บางครั้งพูดไม่ถูกก็รู้สึกเกร็ง เหมือนกัน พอได้พูดแล้วก็รู้สึกดี โชคดีที่ได้เข้ามาทำอะไรแบบนี้
ถามจุดเริ่มต้นของการได้มาเป็นอย่างไร?
ตอบ ครูที่เป็นหัวหน้าวิชาการเวลามี กิจกรรมแบบนี้จะส่งข่าวมา ใครสนใจก็สมัครทำ
ถามทำไมถึงสนใจเรื่องนี้ มีหลายเรื่องที่ครูเสนอ?
ตอบ คิดว่าการทำวิจัยไม่ใช่เรื่องง่าย อยากพัฒนาตัวเองจึงมาทำวิจัย หนูไม่เคยทำรู้สึกว่าแปลกใหม่น่าจะสนุก เพื่อนๆ ก็ชวนกันมา เพื่อนสนิทก็เข้ามาทำหลายคน จึงคิดว่าน่าจะสนุก แต่ถ้ามันยากก็คิดว่าอนาคตข้างหน้าจะเจออะไรที่ยากกว่านี้ จึงลองทำ จะเป็นอย่างไรลองทำดูก่อน
ถามทำไมเราถึงเลือกหัวข้อ เรื่องข้าวใครเป็นคนเสนอหัวข้อนี้เรื่องพันธุ์ข้าว?
ตอบ หนูลงมือทำไปไม่ค่อยเข้าใจว่ามันเป็นอะไรแบบไหน
ถามใครเป็นคนเสนอหัวข้อนี้เรื่องพันธุ์ข้าว ครูคิดหรือว่าเราคิด หรือมีหลายแบบแล้วเราเลือกพันธุ์ข้าว?
ตอบ ไปช่วยกันเสนอก่อน แล้วครูช่วยแนะนำ ว่าอาจจะยากไป ให้เริ่มต้นจากอะไรที่ง่ายก่อน ครูเสนอให้พวกเราทำเรื่องเมล็ดพันธุ์ข้าว เพราะครูเคยทำและคิดว่าเวลาที่พวกหนูทำแล้วไม่เข้าใจ ครูจะได้ให้คำปรึกษาพวกหนูได้
ถามพอได้ลองทำเรื่องพันธุ์ข้าวแล้วมันน่าสนใจอย่างไรสำหรับเรา มีอะไรที่น่าสนใจ?
ตอบ มันเป็นอะไรใหม่ๆ ที่เราไม่เคยรู้ ปกติกินข้าวไม่เคยรู้ว่าพันธุ์อะไร ข้าวหอมมะลิหรือพันธุ์อะไร จึงอยากจะรู้อีกว่ามีข้าวพันธุ์อะไรบ้าง ตอนที่สำรวจรู้เลยว่ามีเยอะ จากที่คิดว่าน่าจะมีหนึ่งชนิดสองชนิด ที่ไหนได้มีตั้ง 7 ชนิด มีบือ บือแปลว่าข้าว ขึ้นต้นชื่อว่า บือ มีบือหง่อละ บือทอละ บือยะแม บือแก๊ะคี บือวาโพ บืออิแกร บือโม๊ะโล๊ะ บางชนิดจะมีชื่อเรียก สอง สาม อย่าง แล้วแต่คนเรียก ที่แน่ๆ มีอยู่ 7 ชนิด
ถามข้อมูลเรื่องพันธุ์ข้าวได้จากการลงชุมชนหรือสำรวจจากไหนเหรอ?
ตอบ สำรวจหมู่บ้านทีโนโค๊ะ ตำบลแม่อุสุ เราเลือกหมู่บ้านตอนแรกเราเลือก 3 หมู่บ้าน พอมานี่อาจารย์เสนอว่าเยอะไปไหม เราเลยเลือกใหม่ ตอนแรกเราไป 3 หมู่บ้านเราจะแบ่งกันไป 3 ทีม พออาจารย์บอกว่าเอาเป็นหมู่บ้านเดียวดีไหม เราก็มาคุยกันว่า ก็มาถามเพื่อนๆ ว่า ไปตรงนี้เป็นอย่างไรบ้างไปทางนั้นเป็นอย่างไร ไปทางนี้เป็นอย่างไร เพื่อจะเลือก ว่าถ้าเราจะเลือกเพียงหมู่บ้านเดียวเราจะไปหมู่บ้านไหน
ถามเราเลือกหมู่บ้านไหนมา?
ตอบ เราเลือกหมู่บ้านทีโน๊โค๊ะ อีกสองหมู่บ้านคือ ทะโจโค๊ะกับ ตอวอซอ เพื่อนนบอกว่าตะวอซอไม่ค่อยมีคนปลูกข้าว ส่วนทะโจโค๊ะ ชาวบ้านไม่ค่อยให้ความร่วมมือ
ถาม พอลงไปชุมชน ที่หมู่บ้านทีโน๊โค๊ะแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?
ตอบ สนุกดี บอกไม่ถูกค่ะ เคยอยู่แต่หมู่บ้านตัวเองเจอแต่ผู้คนในหมู่บ้าน หนูรู้สึกว่าคนแต่ละหมู่บ้านนี่คนเขาจะมีนิสัยที่ต่างกัน คนที่หมู่บ้านทีโน๊ะโค๊ะจะขี้เล่น กวน สนุกดี
ถามไปถามใครบ้างความรู้เกี่ยวเรื่องข้าว?
ตอบ คนในหมู่บ้านค่ะ
ถามจากที่เราอยู่หมู่บ้านหนึ่งแล้วเราต้องสำรวจข้อมูลอีกหมู่บ้านหนึ่งมีวิธีเข้าไปถามหมู่บ้านนั้นอย่างไร?
ตอบ ตอนแรกหนูก็ไปประสานงานกับผู้ใหญ่ก่อน แต่ไม่ได้อธิบายแจ้งให้ชาวบ้านคนอื่นทราบ อธิบายประสานงานกับผู้ใหญ่ ว่าจะมาประสานงานหาข้อมูล จากนั้นเราก็ไปหาคุยกับเขาเกริ่นว่า เราเรียนต้องมาถามหาข้อมูล ขอสัมภาษณ์ได้ไหม ถ้าไม่ให้สัมภาษณ์ก็ไม่เป็นไร ส่วนใหญ่เขาก็ให้สัมภาษณ์ให้ข้อมูล
ถามไปลงชุมชนกับใครบ้าง?
ตอบ ไปด้วยกันทั้งหมด 21 คน
ถามเพื่อนทั้ง 21 คน แบ่งงานกันอย่างไร?
ตอบ ตอนแรกเราคุยก่อน ใครจะต้องทำอะไรบ้าง มีหน้าที่ทำอะไรบ้าง หลักๆ มีสอบถาม จดบันทึกข้อมูล ถ่ายรูป อัดเสียงบันทึกวีดีโอ เราแยกเป็น 2 กลุ่มก่อน จะมีเพื่อน 2 คนที่อยู่ในหมู่บ้านนี้อยู่แล้ว เราคิดว่าเพื่อนน่าจะนำทางไปถูก ในกลุ่มจะให้คัดเลือกตามความถนัดว่าใครถนัดทำอะไร ถ้าพูดเก่งก็ถามข้อมูลถ่ายรูปสวยก็ให้ถ่ายรูป ส่วนจดบันทึกข้อมูลนี้ก็ให้จดกันสองสามคน
ถามใช้เวลาทำงานกี่เดือนตั้งแต่ไปลงพื้นที่?
ตอบ 6 เดือน ทำเฉพาะเสาร์อาทิตย์
ถามแบ่งเวลาอย่างไรจากที่เราต้องเรียน?
ตอบ ตอนเสาร์อาทิตย์ต้องดูก่อนว่าแผนที่โรงเรียนมีกิจกรรมหรือมีงานใหญ่อะไรไหม ถ้ามีอาทิตย์นั้นเราก็จะเว้นไปก่อน บางทีมีกิจกรรมใหญ่ๆ ที่โรงเรียนเสาร์อาทิตย์นี้ อาทิตย์หน้าให้เพื่อนพักผ่อนก่อน เลื่อนเป็นอาทิตย์หน้า ตามที่พวกหนูสะดวก
ถามหนูทำหน้าที่อะไร?
ตอบ นำเพื่อนๆ เป็นหัวหน้าโครงการ เก็บข้อมูลจดบันทึก
ถาม เป็นหัวหน้ายากไหมสำหรับเรา?
ตอบ จะว่ายากก็ยาก จะว่าไม่ยากก็ไม่ยากค่ะ
ถามอะไรบ้างที่ว่ายาก?
ตอบ ควบคุมเพื่อนไม่ค่อยได้ เรียนห้องเดียวกัน เวลาจะพูดอะไรก็เกรงใจ จะบอกไปตรงๆ ก็ไม่กล้าบางทีนัดกันแล้วก็มาสาย จะพูดก็ไม่กล้าพูด คิดว่าโตๆ กันแล้วไม่ควรจะพูด
ถามปัญหาในการทำงานของเราคือเรื่องอะไรบ้าง?
ตอบ เวลาไม่ค่อยตรงเวลากันมาสาย วันนั้นนัดอะไรต้องรอจริงๆ
ถามการปัญหานี้อย่างไรเวลาที่เพื่อนๆ มาสาย?
ตอบ เริ่มทำงานครั้งแรกนัด 9:30 น. ก็มาสาย ครั้งต่อไปก็นัดเป็น 7:30 น.
ถามมีปัญหาอะไรอีก?
ตอบ คนในกลุ่มไม่กระตือรือร้นมาช้า
ถามแก้ปัญหาอย่างไร?
ตอบ บางทีไปบอกในแชทกลุ่มให้กระตือรือร้นกว่านี้ งานใกล้จะเสร็จแล้ว
ถามได้ผลดีไหมวิธีการนี้?
ตอบ ได้ผลแค่ไม่กี่ครั้ง บางครั้งบอกอะไรไปเพื่อนเฉยๆ หนูเข้าใจว่าอาจจะงานเยอะหรือไม่ชอบให้ใครมาบอก มาพูดมาก เนื่องจากเป็นวัยรุ่นกัน ถ้าบอกไปแล้วเพื่อนๆ ในทีมยังเฉย หนูก็ชวนแต่เพื่อนๆ ที่สนิทกันมีทั้งหมด 7 คน ที่ทำงานอยู่ในทีมด้วยกันแค่นั้นก่อน
ถามแสดงว่ามีเพื่อนสนิทที่อยู่ในวงใกล้เราก็ชวนมาทำถ้าเพื่อนกลุ่มใหญ่ไม่มาก็ปล่อยไป?
ตอบ ไม่ค่อยอยากปล่อยเพราะถ้ามาประชุมกันหนูก็ให้มาครบกันทุกคน ไม่ใช่เฉพาะเพื่อนสนิทเท่านั้น แต่ถ้างานที่ต้องเร่งด่วนเพื่อนส่วนใหญ่ไม่สนใจหนูจะชวนแค่เพื่อนสนิท
ถามประชุมกันที่ไหน?
ตอบ ประชุมที่โรงเรียน บางครั้งใช้ใต้ถุนอาคาร หรือตรงที่พวกเราคุยกันได้อย่างสงบสงบ
ถามประชุมกันบ่อยไหม?
ตอบ ไม่ค่อยบ่อยเวลาประชุมกันเราจะคุยกันในแชท ถ้าเป็นงานใหญ่ๆ เข้าจะประชุมกันแบบเจอหน้ากัน ถ้างานเล็กๆ เราจะประชุมสื่อสารผ่านแชท
ถามเวลานำประชุม ใครเป็นคนเริ่ม หนูทำอย่างไรบ้าง?
ตอบ หนูเริ่มโดยบอกให้เพื่อนๆ ทุกคนฟังหน่อยนะคะ มีงานเข้ามาตอนนี้เราจะต้องส่งอันโน้นอันนี้ แล้วก็จะช่วยกันทำก่อนแล้วก็บอกวันเวลาว่าส่งตอนไหนอย่างไรให้ใครทำอะไรบ้างอย่างนี้ค่ะ
ถามเป้าหมายโครงการหนูคืออะไร?
ตอบ เพื่อให้ทราบชนิดพันธุ์ข้าวและก็รู้พิธีกรรมเกี่ยวกับข้าว
ถามเพื่อนทั้งหมด 21 คนเข้าใจตรงกัน?
ตอบ เข้าใจค่ะ
ถามแผนการทำงาน 6 เดือนที่ผ่านมาเรื่องอะไรที่เป็นที่สุดของหนู?
ตอบ หนูยังไม่ค่อยเข้าใจ รู้ว่าทำอันนี้จุดประสงค์เพราะว่าอยากรู้ชนิดพันธุ์ข้าวแล้วก็พิธีกรรม เพื่อนทุกคนเข้าใจแบบนี้ ถ้าเราได้ข้อมูลมาแล้วเราจะเอาไปทำอะไรต่อ ทำอะไรได้บ้างคือยังไม่เข้าใจตรงนี้ เพื่อนก็สงสัยไปหาข้อมูลมาเรียบร้อยหลังจากนั้นเราจะเอาไปใช้อะไร
ถามคิดว่าจะเอาข้อมูลไปใช้ประโยชน์อย่างไรบ้าง?
ตอบ เรารู้ว่าพันธุ์ข้าวมีอะไรบ้าง การปลูกข้าวมีกิจกรรมอะไรบ้าง ตอนแรกเข้าใจว่าทำแล้วก็ส่งรูปเล่มรายงาน คิดว่าในแต่ละรอบที่มาร่วมเป็นการมาพัฒนาตัวเอง พอมาเจอทีมอื่นพัฒนาต่อในหมู่บ้านของเขา ในทีมของพวกหนูก็เริ่มงงกันแล้วว่าเราทำแล้วเราจะไปใช้อย่างไร
ถามหนูคิดว่ามันจะเอาไปใช้อย่างไรกับใครได้บ้าง?
ตอบ ยังไม่รู้ค่ะ
ถามพี่อยู่กรุงเทพฯ รู้สึกว่าได้ประโยชน์ ถ้าเราได้หนังสือเล่มนี้ขึ้น ข้อมูล 7 สายพันธุ์ข้าวและพิธีกรรม คิดว่าเราอยากให้ใครได้รู้ข้อมูลนี้เหมือนเราบ้าง?
ตอบ อยากให้คนในชุมชนที่เราไปหาข้อมูลรู้ด้วย ที่เราทำเพื่อนกำลังไปวัดว่าชนิดนี้ดีกี่เมล็ด ชนิดไหนที่ดีที่สุด คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ ถ้าไปบอกให้คนในชุมชนรู้ ปีนี้เขาปลูกพันธุ์นี้ ถ้าเราบอกเขาว่าปลูกพันธุ์นี้จะได้ผลผลิตดี เขาก็จะเปลี่ยนมาเป็นอันที่เราบอก
ถามเป็นประโยชน์นะ?
ตอบ หนูคิดว่าชุมชนยาก เพราะว่าเขาเห็นเราเป็นแค่เด็ก เขาอาจจะไม่ฟังพวกหนูหรือเปล่า
ถามทำไมหนูถึงคิดว่าผู้ใหญ่ไม่ยอมฟังเด็ก?
ตอบ ด้วยวัฒนธรรมประเพณีของที่นี่ อีกอย่างคือพวกหนูยังไม่กล้าแสดงออกพอ หนูได้คุยกับเพื่อนในทีมเพื่อนบอก คือผู้ใหญ่ชาวบ้านส่วนใหญ่คือทำไร่ทำนาปลูกข้าวมาตั้งแต่อดีตแล้วซึ่งเขาก็มีความรู้พอสมควร
ถามมีภาพฝันเกี่ยวกับชุมชนว่าอย่างไรบ้าง?
ตอบ ให้ชุมชนสะอาดไม่มีขยะ มีถังขยะที่อบต. ไปตั้งไว้ ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาไม่ทิ้งในถัง อยากให้เขาทิ้งลงถัง หมู่บ้านน่าจะสะอาดขึ้น
ถามก็เห็นช่องทางว่างานของเราจะเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นบ้างไหม?
ตอบ หนูไม่รู้เลยจะมีประโยชน์อย่างไร
ถามตอนที่เรากินข้าว เรารู้ว่าพันธุ์อะไรความรู้สึกเราเปลี่ยนไปไหม?
ตอบ เปลี่ยน
ถามเรากินข้าวพันธุ์อะไร?
ตอบ บ้านหนูกินข้าวพันธุ์หอมมะลิปลูกกินเอง
ถามไม่ชวนที่บ้านเปลี่ยนมากินข้าวพื้นเมือง?
ตอบ เมื่อก่อนคุณพ่อเคยปลูกข้าวพื้นเมือง แต่ปัจจุบันคุณตาชวนให้หันมาปลูกข้าวหอมมะลิแทน อาจด้วยรสชาติและความนุ่มที่ลูกๆ ชอบกิน แล้วก็สามารถนำไปขายได้ด้วย
ถามอยากให้พ่อกับแม่กลับมาปลูกพันธุ์ข้าวพื้นเมืองไหม?
ตอบ ค่ะ
ถามปลูกข้าวมะลิเพราะว่าได้ขายด้วยไหม?
ตอบ ได้ขายค่ะ
ถามข้าวพื้นเมืองดูดีหายากกว่า น่าสนใจมีกลิ่นธรรมชาติ ตอนที่ไปลงชุมชนทีโน๊ะโค๊ะก็ไปกันเอง?
ตอบ ใช่ค่ะ
ถามข้อมูลที่ได้มาเอากลับไปลงที่ชุมชนถึงขั้นตอนนั้นหรือยัง?
ตอบ ยังค่ะ อยู่ในขั้นตอนเขียนและทำเล่ม ในกิจกรรมไม่มีคืนข้อมูลชุมชน
ถามอยากทำไหม?
ตอบ อยากค่ะ
ถามที่ทีโน๊ะโค๊ะใครที่ให้ข้อมูลหลัก?
ตอบ ปราชญ์ผู้รู้ซึ่งเป็นผู้สูงอายุอาศัยอยู่ในหมู่บ้านมานาน จะรู้เรื่องราวเยอะ ผู้ใหญ่บ้าน ท่านก็สามารถให้ข้อมูลเราได้เยอะเช่นกัน
ถามได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการทำวิจัยพันธุ์ข้าว?
ตอบ มาที่นี่มีคนมาก หนูรู้สึกไม่กล้าแสดงออกมาก ตอนแรกที่พี่ๆ ให้หนูคิด หนูคิดไม่เป็น ไม่กล้าคิด แต่อยู่ที่โรงเรียนกล้าแสดงออก ตอนนี้กล้าขึ้นมานิดนึง กล้าคิดไม่กล้าพูด
ถามกล้าพูดในที่มีคนไม่รู้จักมากขึ้น?
ตอบ ถ้าอยู่ที่คนมากปากก็จะสั่น วันไหนที่พูดแล้วไม่สั่น หนูคิดว่าหนูไม่ตื่นเต้นแล้ว ตอนนี้มีอาการบ้างแต่น้อยกว่าเมื่อก่อน ถ้าเทียบกับตอนแรกหนักกว่านี้
ถามครั้งแรกสำหรับทุกคนก็จะเป็นแบบนั้นถ้าผ่านไปก็จะไม่สั่น แล้วการสั่นหายไปเป็นเพราะอะไร?
ตอบ เป็นเพราะความคุ้นเคย เคยชิน บางครั้งมันก็สั่นอยู่ในใจ บางครั้งหายกลัวแต่ยังสั่นนิดหน่อย
ถามเพื่อนที่เรามาเจอ มีส่วนไหมที่จะทำให้เรากล้าคิด?
ตอบ มาที่นี่เป็นกันเองเพื่อนที่มาจากแต่ละที่ตอนแรกคิดว่าน่ากลัว เคยไปแข่งทักษะเหมือนเป็นคู่แข่ง ตอนนั้นน่ากลัวคนเยอะ ที่นี่ไม่ใช่เหมือนเป็นพี่เป็นน้องกัน ตอนที่ไม่กล้าพูดใส่ไมค์ เขาไม่ว่าอะไรเรา เขามีแต่ตั้งใจฟัง แล้วขอให้พูด เหมือนเขาตั้งใจฟัง มีพี่ๆ ให้กำลังใจทำให้เรามั่นใจขึ้น ความมั่นใจหนูมากขึ้นนิดนึง
ถามความเปลี่ยนแปลงอื่นอีกไหม?
ตอบ ทำงานร่วมกับเพื่อนในทีมเราได้รู้มุมมองหลายอย่างของแต่ละคน เพื่อนบางคนเมื่อก่อนอยู่ในห้องเดียวกันแต่ไม่ค่อยสนิทกันมาก พอมาทำงานร่วมกันเราก็สนิทกันมากขึ้น เวลาทำงานเราก็ได้รู้ว่า เพื่อนคนนี้เป็นยังไง บางคนใจเย็นบางคนใจร้อน เช่น นัด 9:00 น. ถ้าเพื่อนบางคนเลท เพื่อนบางคนมาตรงเวลาเพื่อนอีกส่วนหนึ่งมาสาย คนนี้ก็จะร้อนขึ้น เขาก็บอกว่าจะกลับแล้วนะถ้ายังไม่มา บางคนใจเย็นเพื่อนก็ยังไม่มา เราก็บอกว่าใจเย็นเดี๋ยวเขาก็มา
ถามเวลาทำงานกลุ่มเราจัดการกลุ่มอย่างไร?
ตอบ ก็ใจเย็นบางครั้งก็โมโห แต่ด้วยความที่เราเป็นผู้นำ ถ้าเราเหวี่ยงกลับแบบนี้ เพื่อนในทีมที่มาทีหลังจะทำอย่างไร ก็ต้องใช้ความใจเย็น ปกติหนูก็ใจเย็นทำอะไรก็ใจเย็น แม่ก็บ่นตลอด
ถามเราใช้เหตุผลอย่างไรคะ?
ตอบ เหตุผลคืออยากให้งานออกมาสมบูรณ์ การที่งานจะออกมาสมบูรณ์เราไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ หนูคิดว่าอย่างน้อยสองหัวก็ดีกว่าหัวเดียว
ถามอันนี้ก็เป็นการตัดสินใจเลือกแล้วก็ไปต่อ มีอะไรอีกบ้าง?
ตอบ คำพูดของคนในหมู่บ้านได้เจอผู้ใหญ่ ลุงป้าในหมู่บ้านบางคนหนูไม่เคยเจอ หนูรู้สึกว่ายังมีผู้ใหญ่แบบนี้อยู่เหรอ รู้สึกดีบางคนเป็นกันเอง อยู่ในหมู่บ้านของตัวเองไม่เคยเจอแบบนี้ ที่หมู่บ้านหนู บ้านของหนูจะอยู่ไกลจากบ้านของคนอื่นที่ ไม่ติดถนน ไม่ได้เจอผู้คนมากมายถ้าไม่ออกจากบ้าน พอได้ออกไปไปที่หมู่บ้านพลีโน่ รู้สึกชอบเขาใจดี
ถามหนูประทับใจคำพูดอะไรบ้าง?
ตอบ บางคนก็บอกทางเรา เขาใจดีเขาให้ข้อมูลเราดี บางคนเหมือนเราเป็นแขกคนนึงเชิญขึ้นบ้านดื่มน้ำก่อนแต่บางคนก็ตลก ไม่ใช่ว่าเขาโกรธแต่เขาพูดกวน หนูชอบเขาพูดตลก
ถามเราคิดว่าทักษะการเก็บข้อมูลและการเรียนรู้ที่หลากหลายจะส่งผลอะไรต่ออนาคตของเราได้บ้างไหม?
ตอบ ถ้าโตขึ้นไปโตขึ้นไปเราอยู่ในสังคมหมู่มาก เจอคนที่หลากหลาย เราก็จะปรับตัวเตรียมตัวได้ดีขึ้นโตขึ้นก็น่าจะเจอคนเยอะ เราก็จะได้รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไร ตอนที่ไปถามบางคนไม่อยากให้ข้อมูลหนูก็พยายามพูดขอความเห็นใจเสียงเบาอ่อนน้อม
ถามการเปลี่ยนแปลงที่เป็นที่สุด เลือกหนึ่งข้ออะไรในตัวเราที่เปลี่ยนแปลงไป?
ตอบ การแบ่งเวลาเป็นหัวหน้าโครงการต้องคอยควบคุม และก็คอยแบ่งงาน ครูก็ช่วยบ้างบางส่วน ครูมีอะไรก็จะมาพูดกับหนูจากนั้นหนูก็จะไปบอกกับเพื่อน แล้วก็แบ่งงานกัน การบ้านเราก็มีงานเราก็มีเราก็มีเรื่องต้องทำ ต้องแบ่งเวลา เมื่อก่อนหนูยังแบ่งเวลาไม่เป็น บางครั้งมีงานค้างบ้าง มาทำโครงการนี้ถ้าเป็นแบบเดิม ไม่แบ่งเวลางานของเราก็น่าจะไปได้ไม่ดี ก็ต้องมีการแบ่งเวลาให้ดีกว่าเดิม
ถามถ้าคะแนนเต็ม 10 ให้คะแนนตัวเองเท่าไหร่ในการทำงานโครงการสิบคือมากเห็นคือน้อย?
ตอบ 6 ค่ะตอบ ค่ะอีก 4 ยังไม่เข้าใจการทำงานมากพอเวลาเพื่อนถามก็ไม่สามารถตอบได้ทันที
ถามถ้าให้คะแนนระดับโครงการ 10 คะแนนให้เท่าไหร่?
ตอบ ให้ 8 ค่ะ ต่างคนก็ยังไม่เข้าใจดีมาก แต่ช่วยกันร่วมมือดี เวลามีงานเข้ามาเพื่อนๆ ช่วยกันดีมากเหลือแค่จัดทีม
ถามความประทับใจที่สุดของเรากับการทำงานโครงการนี้?
ตอบ เพื่อนให้ความร่วมมือกันดี แม้จะยังไม่เข้าใจกันดีบ้าง แต่เราก็ช่วยกันทำงานไม่รู้สึกว่าไม่อยากทำแล้ว เราก็สู้กันมา ครูถึงแม้ว่าจะพูดน้อยแต่ก็ช่วยพวกหนู
ถามพี่ชื่นชมนะพวกเราอายุเท่านี้แล้วก็มีมุมมองกับเพื่อนแบบนี้แล้วทำโครงการมาขนาดนี้ ก็ยังร่วมมือกันดีพี่คิดว่าเพื่อนๆ เราทั้ง 21 คนก็ทำเต็มที่ในบริบทในวัยขนาดนี้หน้าที่การงานที่เป็นนักเรียนทำเศษส่วนให้ 8 คะแนนในใจเราดีแล้วเป็นประสบการณ์เก็บผลงาน portfolio ไว้ด้วยนะ
อีกอย่างที่อยากบอกจากการพูดของเราคือมีมุมมองที่วิเคราะห์ตัวเองและเพื่อนได้ นอกจากทักษะการจัดการเวลาได้ เรามีทักษะการวิเคราะห์ที่ชัดเจนขึ้น อนาคตฝันอยากทำอาชีพอะไร?
ตอบ อยากเป็นครูดอย อยากเจอธรรมชาติ อยากเจอเด็กๆ ที่มาทำตรงนี้นี่ อาชีพหนูอยากลองอะไรใหม่ๆ เราก็มีประสบการณ์เคยทำอันนี้ ทำไปหลายอย่าง อนาคตเราไม่ได้ใช้ก็ไม่เป็นไร
ถามสิ่งที่เราได้ก็เป็นทักษะชีวิตนะ การจัดการเวลา การเป็นผู้นำ การตัดสินใจ เป็นทักษะสำคัญในการเป็นครู การเรียนรู้ของพวกเราถ้ามีคนอยากทำโครงการเแบบนี้อีก เราอยากจะบอกพวกเขาว่าอย่างไร?
ตอบ อยากบอกเขาว่ามาลองทำ อยากให้ลองเองทำดูแล้วจะรู้ ได้อะไรหลายอย่าง น่าลองทำ