นางสาวปิยะธิดา ริยาพันธ์ แกนนำเยาวชน Active Citizen จ.สุราษฏร์ธานี
นางสาวปิยธิดา ริยาพันธ์ หรือ เก๋ ปัจจุบันอายุ 18 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพุนพินวิทยา เก๋เป็นหนึ่งในแกนนำเยาวชนจากโครงการพัฒนาศักยภาพเยาวชนบนฐานความรู้สู่การขับเคลื่อนงาน Active Citizen จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ในปีที่ 1 เก๋และเพื่อน ๆ ได้ทำโครงการที่มีชื่อว่า “เครื่องกรองอากาศแบบ CombineCycle ลดมลพิษทางอากาศ” เป็นโครงการเกี่ยวกับการประดิษฐ์เครื่องกรองอากาศ เพื่อนำไปใช้ในการลดมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเก๋ตั้งความหวังไว้ว่า โครงการนี้จะช่วยให้ตนเองได้พัฒนาทักษะในหลาย ๆ ด้าน รวมถึงช่วยพัฒนาและต่อยอดเครื่องกรองอากาศของตนเองให้สามารถนำไปใช้งานได้จริง และช่วยลดมลพิษทางอากาศได้จริง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นความท้าทายสำหรับเก๋และเพื่อน ๆ เป็นอย่างมาก
เก๋เล่าให้ฟังว่า ช่วงแรกตนเองไม่รู้เลยว่าจะเริ่มต้นทำเครื่องกรองอากาศยังไง และก็ไม่เข้าใจโครงสร้างการทำงานของเครื่องด้วย เก๋เลยตั้งคำถามกับตนเองว่า ถ้าเราเป็นคนทำและเราไม่เข้าใจกระบวนการทำงาน เราจะไปอธิบายให้คนอื่น ๆ เข้าใจในสิ่งที่เราทำได้ยังไง
เก๋เลยกลับไปทำความเข้าใจกับกระบวนการทำงานของเครื่องกรองอากาศใหม่ทั้งหมด ลองลงมือทำจริง ๆ เพื่อให้ตนเองเกิดความเข้าใจในกระบวนการทำงานของเครื่องมากขึ้น จนกระทั่งสามารถนำไปสื่อสารให้ผู้อื่นเข้าใจได้ โดยที่ไม่ต้องใช้วิธีการท่องจำ
“ครั้งแรกเลย หนูไม่รู้ว่าหนูทำอะไร คืออยู่ ๆ ก็คิดเครื่องกรองขึ้นมา ตอนแรกเราก็ไม่รู้ว่าจะต้องประดิษฐ์ยังไง และก็ไม่เข้าใจโครงสร้างหรือการทำงานของมัน กลายเป็นว่าเราไม่เข้าใจ และเราจะไปอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้ยังไง ตรงนี้ที่เรายังไม่ได้ทำความเข้าใจกับเรื่องที่เราทำได้ดีเลย กลายเป็นว่าคนอื่นเขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เราก็เลยต้องกลับมาทำความเข้าใจ หันมาประดิษฐ์ ลงมือทำกันจริงๆ พอถึงจุดนั้น เราก็เข้าใจโดยที่ว่าไม่ต้องท่องจำ เพราะว่าเราได้ลงมือทำจริง ๆ เราได้ประสบการณ์จากการปฏิบัติ ทีนี้เราก็เลยสามารถอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่”
เก๋เล่าให้ฟังต่อว่า โครงการนี้ทำให้เธอเกิดการเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ ด้าน เช่น ความกล้าที่จะพูดต่อหน้าคนเยอะๆ กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นของตนเอง และกล้าที่รับคำฟังคำแนะนำจากผู้อื่น ทั้งที่เมื่อก่อนตนเองเป็นคนขี้อายและไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลย
“หนูชอบที่โครงการนี้เปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงความสามารถ เหมือนทีแรกเลย หนูเป็นคนที่ไม่กล้าแสดงออกเลย ไม่กล้าที่จะพูดต่อหน้าคนเยอะ ๆ มันรู้สึกไม่มั่นใจ อาย พอได้เข้าโครงการนี้ก็เหมือนมีความเป็นกันเอง หนูก็เลยกล้าที่พูด กล้าแสดงออก กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นของตัวเอง คนอื่นก็แนะนำเราก็รับฟังและก็มาแก้ไข มันก็ทำให้หนูได้พัฒนาตัวเอง และก็แบ่งปันความรู้ให้กับคนอื่นได้มากขึ้น”
สุดท้าย เก๋บอกกับเราว่า โครงการนี้ฝึกให้ตนเองเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาให้ตรงจุดมากขึ้นด้วย เพราะก่อนหน้านี้ เวลาที่เจอปัญหาจะไม่รู้ว่าต้องแก้จากตรงไหนก่อน พอได้มาทำโครงการนี้ ทำให้เก๋ได้เผชิญกับสถานการณ์ปัญหาจริง ๆ และต้องหาทางแก้ไขปัญหาด้วยตนเองจริง ๆ ไม่ได้จมอยู่แต่กับทฤษฏีที่ต้องจำเป็นขั้นเป็นตอน แต่พอเจอปัญหาจริง ๆ กลับแก้ไขไม่ได้
“หนูคิดว่า เรารู้จักการแก้ปัญหาที่ตรงจุดมากขึ้น ทีแรกเป็นคนที่แบบถ้าเจอปัญหาเราไม่รู้ว่าจะแก้จากตรงไหนเลยด้วยซ้ำ พอได้เข้าโครงการเราได้เจอกับสถานการณ์จริงๆ ไม่ได้อยู่แต่กับทฤษฎี มันได้ใช้ชีวิต หนูก็เลยลองตั้งสติ ลองคิดๆ ดูก่อน อย่าไปเครียดกับมัน มันทำให้เราแก้ปัญหาออกมาได้ดี ดีกว่าการที่เราไปจำเป็นขั้นเป็นตอน พอเจอสถานการณ์จริงแล้วเราก็แก้ไขไม่ได้”