ณบ้านบ้านผู้รู้
- วันที่ 25-26เดือน ตุลาคมพ.ศ. 2557
วัตถุประสงค์
- -เพื่อได้ข้อมูลการละเล่นท่รวยอิก
ผู้เข้าร่วมประชุม
- -กลุ่มกอนกวย
- -พี่เลี้ยงโครงการ
ผลที่ได้รับ
- -ได้รู้วิธีการละเล่นพื้นบ้านทร่วยอิก ดังนี้ วัฒนธรรมด้านการละเล่นพื้นบ้าน
ในอดีต เด็กและเยาชนจะใช้เวลาว่างส่วนใหญ่รวมกลุ่มกัน ในที่โล่ง คืนที่พระจันทร์เต็มดวง จะพากันเล่นหรือทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งในอดีตมีการละเล่นอยู่ประมาณ 14 ชนิด คือ เกลท่รวยอิก เกลขอนหนึง เกลโมตัง เกลหึบ เกลเบียด เกลเตย เกลกาง เกลตี เกลแขก เกลกงกะแถ๊ะ เดินโถกเถก เกลกลาบ และเปาะกะโป๊ะ
เกลท่รวยอิก
เกลท่รวยอิก คือ การเล่นทายเสียง จะแบ่งจำนวนผู้เล่นออกเป็น 2 ฝ่าย เท่าๆกัน โดยการเป่ายิงฉุบ คำว่า “ท่รวย” หมายถึง ไก่ ส่วนคำว่า “อิก” เป็นเสียงร้องของไก่ ส่วนมากจะนิยมเล่นกันในวัยเด็กและเยาวชน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีการเล่นที่แตกต่างกัน สามารถแบ่งได้ 3 ช่วง คือ
-ช่วงอายุ 80 ปี ขึ้นไป
จุดเริ่มต้นของการเล่น มาจากคณะครูที่อยู่ในชุมชนบ้านซำ สอนเด็กๆให้เล่นกันที่โรงเรียน ในช่วงเวลาว่างๆจากการเรียนหนังสือหรือเล่นตามถนนลูกรัง ในขณะนั้น จะแบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 กลุ่มๆ ละเท่าๆกัน โดยการเป่ายิงฉุบ คนที่แพ้ก็จะอยู่กลุ่มเฉพาะคนที่แพ้ ส่วนคนที่ชนะก็จะอยู่เฉพาะคนชนะ เมื่อแบ่งทีมเรียบร้อย ให้ภายในทีมเลือกหัวหน้าทีม มาทีมละ 1 คน เมื่อได้แล้วให้ผู้เล่นของแต่ละทีมทุกคนไปซ่อนตัวตามใต้ถุนบ้าน แล้วให้หัวหน้านำลูกทีมของตนออกมา ถ้าลูกทีมเป็นคนที่มีรูปร่างใหญ่หรืออ้วนให้คลานออกมา แต่ถ้าตัวเล็กหัวหน้าทีมจะอุ้มหรือคลานออกมาก็ได้ โดยการนำผ้ามาคลุมปิดบังส่วนของร่างกายไว้อย่าให้หัวหน้าทีมฝ่ายตรงข้ามเห็น เมื่อมาถึงจุดหมายหรือพร้อมทั้งสองฝ่ายแล้ว ให้หัวหน้าทีมเป่ายิงฉุบอีกที่ หาผู้ชนะเพื่อที่จะได้ฝ่ายทายก่อน จากนั้นจะมีการร้องเพลงก่อนที่จะเคาะและทาย ดังนี้
ลองทายดูสิ ว่าไก่ตัวนี้เลขที่เท่าไร
จงขันฉันฟังก่อน ถึงจะตอบสุนทรได้….
ไก่เอ่ย ไก้แก้ว จงขันเสียงแจ้วออกมาไวๆ
เมื่อร้องจบให้หัวหน้าทีมฝ่ายตรงข้ามเคาะหลัง และคนที่อยู่ใต้ผ้าร้องว่า “อิก” แล้วทายว่าเบอร์อะไร ในวัยนี้จะแทนผู้ที่อยู่ในผ้าด้วยหมายเลข (เบอร์ 1,2,3….) เมื่อทายแล้วก็เปิดผ้าคลุมออก ถ้าทายถูกผู้เล่นคนนั้นก็จะกลายเป็นลูกทีมของฝ่ายตรงข้ามทันที แล้วก็เล่นไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้ทีมชนะ คือ มีจำนวนผู้เล่นมากที่สุด
-ช่วงอายุ 52 ปี
ในวัยนี้มีการเล่นต่อๆกันมาจากรุ่นก่อน แต่มีข้อแตกต่าง คือ ไม่มีการร้องเพลงก่อนทายและจะทายเป็นไก่ตัวผู้หรือไก่ตัวเมียแทนหมายเลข (เบอร์ 1,2,3….) และจะซ้อนตัวตามเสื่อแทนใต้ถุนบ้าน จะเล่นกันในบริเวณที่โล่งกว้าง หลังจากเรียนหนังสือและช่วยงานบ้านพ่อแม่เรียบร้อยแล้วในการเล่นจะแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 ทีม เท่าๆกัน โดยการเป่ายิงฉุบ แล้วเลือกหัวหน้าทีม เมื่อได้ให้ลูกทีมไปซ้อนตัวอยู่หลังเสื่อ แล้วส่งลูกทีมออกมา ทีมละ 1 คน โดยการคลานออกมา และอย่าให้อีกฝ่ายเห็นว่าเป็นใคร เมื่อมาถึงจุดที่กำหนดไว้ให้หัวหน้าทีมเป่ายิงฉุบอีกที่เพื่อจะได้ว่าทีมใดจะเป็นผู้เริ่มเล่นก่อน จากนั้นให้หัวหน้าทีมเคาะหลังคนที่อยู่ใต้ผ้า แล้วร้องออกมาว่า “อิก” แล้วทายว่าคนที่อยู่ใต้ผ้านั้นว่าเป็นไก่ตัวผู้หรือไก่ตัวเมีย ถ้าทายถูกไก่ตัวนั้นก็จะกลายเป็นลูกทีมของฝ่ายตรงข้ามทันที จากนั้นเล่นต่อไปจนกว่าจะได้ทีมผู้ชนะ คือ มีจำนวนผู้เล่นมากที่สุด
-ช่วงอายุ 31 ปี
วัยนี้มีข้อแตกต่างจากอดีต คือ ไม่มีเพลง ทายชื่อแทนหมายเลข (เบอร์ 1,2,3….) และจะซ้อนตัวอยู่หลังเสื่อ จะเล่นกันในเวลาว่างและในคืนจันทร์เต็มดวง ที่บริเวณโล่งกว้างหรือตามทุ่งนา วิธีการเล่นจะเล่นโดยการแบ่งกลุ่มเป็น 2 ทีมจำนวนเท่าๆกัน โดยการเป่ายิงฉุบ แล้วเลือกหัวหน้าทีม ทีมละ 1 คน เมื่อได้ให้นำลูกทีมไปซ้อนตัวอยู่หลังเสื่อ แล้วส่งลูกทีมออกมา ทีมละ 1 คน โดยการคลานออกมา และอย่าให้อีกฝ่ายเห็นว่าเป็นใคร เมื่อมาถึงจุดที่กำหนดไว้ให้หัวหน้าทีมเป่ายิงฉุบอีกที่เพื่อจะได้ว่าทีมใดจะเป็นผู้เริ่มเล่นก่อน จากนั้นให้หัวหน้าทีมเคาะหลังคนที่อยู่ใต้ผ้า แล้วร้องออกมาว่า “อิก” แล้วทายว่าคนที่อยู่ใต้ผ้านั้นว่าเป็นใคร ถ้าทายถูกคนที่อยู่ใต้ผ้านั้นก็จะกลายเป็นลูกทีมของฝ่ายตรงข้ามทันที จากนั้นเล่นต่อไปจนกว่าจะได้ทีมผู้ชนะ คือ มีจำนวนผู้เล่นมากที่สุดและในวัยนี้จะมีบทลงโทษทีมแพ้ โดยให้ทีมผู้ชนะขี่หลังแล้วเดินหรือวิ่งไปยังจุดที่กำหนดไว้
ปัญหา /อุปสรรค
- -บางครั้งไปเก็บข้อมูลบ้านผู้รู้แต่ผู้รู้ไม่อยู่บ้าน
- -ทีมมาช้า
- -ไม่ค่อยรู้การจดบันทึก