บ่ายเกือบของวันที่10 กันยายน2551นาคาเดินทางออกจากเมืองขรราชนครพร้อมกับทีมงานเพื่อเข้าร่วมเวทีสัญจรที่เมืองลำพูนคืนแรกเราเดินทางไปยังอาณาจักรภูกามยาวดินแดนแห่งพื้นที่ชุ่มน้ำกว๊านพะเยาค่ำคืนนี้เป็นค่ำคืนที่เราต้องเดินทางมาเพื่อเดินทางต่อในวันรุ่งขึ้นที่จังหวัดลำพูนในค่ำคืนนี้ก็ไม่ได้มีอะไรที่น่าตื่นเต้นมากนักนอกจากการเริงร่าในยามราตรีในเมืองพะเยา.....เอาเป็นว่าผมข้ามคืนนี้ไปเลยละกันนะครับ
พอรุ่งเช้าของวันที่11 กันยายน2551เราตื่นกันแต่เช้าเลยยย...หุหุหุปรกติเนี่ยยังเป็นเวลาอยู่เลยนะเนี่ยยยย....หกโมงเช้ากับบรรยากาศแห่งสายหมอกที่แผ่กระจายลอยละลิ่วท่ามกลางสายลมหนาว...เดินทางออกจากบ้านพี่กุ้งฝ่ายประสานงานในพื้นที่ภาคเหนือไปรับเพื่อนๆอีกที่วิทยาลัยเกษตร(อย่าไปบอกใครนะครับที่จริงเค้าหนะรุ่นน้องไอ้เราก็ยังไม่อยากแก่...หุหุ)เดินทางต่อมุ่งหน้าสู่เมืองหริปุณชัยไปถึงยังที่พักเกือบเที่ยงคับ..โอ้ววววแม่เจ้า...ที่พักได้ใจมั่กๆๆถ้าใครที่อยู่ในวงการนี้อาจพอรู้จักสำหรับที่พักแอห่งนี้...โขงสาละวินครับที่พักที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวระหว่างธรรมชาติ วิถีชีวิตและการต่อสู้ไว้ได้อย่างลงตัว..เริ่มแล้วสิครับการเริ่มต้นแห่งการเรียนรู้ได้เริ่มก่อตัวและกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว..ในขณะเดียวกันนั้นก็แอบบหวั่นๆๆว่าเพื่อนๆพี่ๆดูแล้วเกร็งๆนิดหน่อย...หุหุหุ
อาหารมื้อแรกจากลำพูนเมืองแห่งเจ้าแม่จามเทวีต้องรับด้วยอาหารเพื่อสุขภาพกึ่งชีวจิตที่โขงสาละวินท่ามกลางสายน้ำแสงแดดสายลมและต้นไม้...ชอบๆๆ..กิจกรรมแรกในเวทีนี้ได้เริ่มขึ้นเมื่อเข็มนาฬิกาเดินมาเกือบบ่ายโมงเริ่มจากการแนะนำตัวรายงานสถาณการณ์ต่างๆในพื้นที่จนกว่าจะครบทุกพื้นที่เอาผมตาปรือเลยยยย..ดูเวลาปาเข้าไปเกือบห้าโมงแล้วสถาณการณ์เริ่มที่จักสนุกสนานเพราะได้รู้จักกันแล้วของเด็กในแต่ละพื้นที่.....พักก่อนละกันพี่ๆทีมงานบอกก็ดีเหมือนกันนะพี่อัดกาแฟสุดพลัง..ทานข้าวเสร็จเด๋วทุ่มนึงเจอกันที่ห้องประชุมเสียงใครไม่แน่ใจตะโกนไล่หลังมา..........หิวๆๆๆๆๆๆๆ
เวลาทุ่มนึงได้มาถึงแล้วนาคาตัวน้อยๆแห่งเมืองเชียงของเดินคอตกเข้าไปนั่งอยู่ในห้องประชุมอีกครั้งนึงเพื่อคุยกันในเรื่องเดิมที่ติดค้างกันตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ต่อเนื่องกันมาเวลาเดินทางมาถึงสามทุ่มเจ้านาคาน้อยเริ่มง่วงแล้วสิ...เอ๊ะ..ไม่น่าจะง่วงนะเพราะส่วนใหญ่แล้วนี่ไม่ใช่เวลานอนของเรานี่นา...เอาเปนว่าวันนี้ของย่ำตะเวนราตรีเมืองหริปุณชัยสักคืนละกานอาบน้ำอาบท่าแล้ว...ฮัลโหล..เห้ยยยมารับไปเที่ยวหน่อยเสียงปลายสายนั้นจะเป็นใครไม่ได้นอกจากเพื่อนที่เคยเรียน ปวชด้วยกันมารับออกจากโรงแรมเพื่อย่ำตระเวณราตรี....หุหุหุ...กลับเข้ามาอีกทีเกือบเที่ยงคืนกลับมาถึงเข้านอนสบายๆมั่กๆเพราะบรรยากาศทั้งสายฝน..สายลมช่วยให้ความเหงาที่เกิดขึ้นในจิตใจหายไปได้อย่างดีเลยทีเดียว
เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วนกาแฟถ้วยเก่าพร้อมกับบรรยากาศที่แสนจะสุดบรรยายกลิ่นไอแห่งสายหมอกปะทะเข้ากับกลิ่นกาแฟยามเช้ามันช่างเข้ากันเสียจริงๆๆสำหรับผมแล้วผมคิดว่าวันนี้น่าจะเป็นอีกวันนึงที่ทำให้ผมสดชื่นและมีความสุขมากเลยทีเดียว.....(ผมรู้แล้วครับที่เค้าบอกว่ายุงร้ายกว่าเสือมานเปนยางไง....555+)
เวทีแห่งการเรียนรู้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วค่อนข่างที่จะตรึงเครียดมากสำหรับเหล่าพี่เลี้ยงเกี่ยวกับการสร้างกระบวนการทำงานของแต่ละพื้นที่ การวางเป้าหมายของแต่ละทีมแต่ละจังหวัดค่อนข้างเครียดกันพอสมควร...ในหัวแต่ละคนผมเชื่อว่ามีแต่คำว่า ทำไม ทำไม ยังไง อย่างไร?????????? ......................เวลาล่วงเข้ามาถึงเที่ยงพวกเราฝ่ายพี่เลี้ยงในแต่ละพื้นที่ยังคุยกันอย่างถึงพริกถึงขิงแต่ในขณเดียวกันทีมผู้ประสานงานและเด็กๆที่เข้าร่วมโครงการทยอยเดินทางลงมาแล้วเพื่อรับประทานอาหารเที่ยงงั้นเอาเป็นว่าเราละไว้ในฐานที่เข้าใจละกันพี่คนนึงในกลุ่มสรุป..แหะแหะ..หิวข้าว................
ทานข้าวเที่ยงเสร็จแล้วบรรยากาศผ่อนคลายจากเดิมด้วยบทเพลงจากพี่สุนทรี เวชานนท์เข้ากับบรรยากาศได้ดีมากเลยทีเดียววววหนังท้องตึง..แฮ่ๆๆหนังตาเริ่มหย่อนแล้วสิอัดกาแฟยามบ่ายเคล้าบทเพลงจากสรวงสวรรค์เคล้าด้วยกลิ่นกาแฟและแสงแดดอ่อนๆจากบรรยากาศของโขงสาละวิน..สถานที่ในฝันของใครหลายคนจนในบางครั้งอยากที่จะหยุดเวลาไว้ ณ ห้วงเวลาใดเวลาหน่ง ที่เราหนีมาเพื่อทำงานก็ตามแต่ในสภาพที่สิ่งแวดล้อมรอบตัวเรามันเปลี่ยนไปนั้นผมว่ามันช่วยให้เราผ่อนคลายและคลายเครียดจากสิ่งที่เราประสบพบเจอเป็นวัฎจักรเดิมๆนะครับ..........ในช่วงบ่ายบรรยากาศเริ่มที่จะตรึงเครียดอีกรอบในการพูดคุยกันในเรื่องราวต่างๆในแต่ละพื้นที่เอาเป็นว่าบรรยากาศของความตรึงเครียดผมขอข้ามไปเลยละกานคืนนี้มีถนนคนเดินนะเสียงจากเจ้าภาพในพื้นที่แว่วมา...หุหุ...ได้ที่เที่ยวอีกแล้ว......ก็ฉันชอบเที่ยวมันผิดหรือไง......ฉันรักในเสียงดนตรี.......ตกเย็นเริ่มเดินทางสู่ถนนคนเดินซึ่งห่างจากที่พักประมาณ500เมตรเห็นจะได้ครับกลับมาเกือบห้าทุ่ม..กลับมาง่วงมั่กๆค่ำคืนแห่งเมืองหริปุนชัยในคืนที่สองได้ย่างเข้าสู่ความฝันอันยิ่งใหญ่ในใจเจ้านาคาน้อยตัวนี้แล้ววว.....ครอกกกกฟี้...ZzzZzZ...zZZZzzzzz
ตื่นมาด้วยอาการงงกับเสียงของสหายๆหลายๆคน...ก็ไม่ใช่อารัยหรอกนะครับไฟดับปั๊มน้ำทำงานไม่ได้ไม่มีน้ำอาบกันหนะสิครับ...ยุ่งหละสิ..ผมจึงเดินลงไปในครัวเพื่อยกน้ำถังที่ใช้ดื่มกันขึ้นมาเพื่อแปลงฟันก่อนละกัน..เท่านั้นแหละค้าบบพี่น้องเอ้ยยยยผมยกเสร็จน้ำไหลซะงั้นนนนน.....มันหนักนะเนี่ยยย....เสร็จเข้าเรื่องเข้าราวแล้วแล้วในช่วงเช้านี้เราก็ยังคงที่จะต้องคุยกันอยู่ในเรื่องราวของแผนงานที่เราได้พูดคุยกันตั้งแต่เมื่อวานเพื่อให้ได้ข้อสรุปของหลายๆพื้นที่ก่อนที่เราจะเดินทางไปสู่บ้านจำขี้มด..ในช่วงบ่าย
หลังจากการรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จเราเดินทางมุ่งหน้าสู่บ้านจำขี้มดเพื่อที่จะศึกษาดูงานกลุ่มเยาวชนในพื้นที่ดูกระบวนการทำงานศึกษาลุ่มเยาวชนบ้านจำขี้มดในด้านต่างๆเดินทางดูการสร้างวังปลาที่เป็นผลงานของเยาวชนบ้านจำขี้มด....จนถึงเกือบห้าโมงเย็นเราเดินทางออกจากบ้านจำขี้มดด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเองและอิ่มจากเห็ดโคนนึ่งที่ได้มากจากป้าท่านนึงแห่งบ้านจำขี้มด..โอ้วววแม่เจ้าเดินทางต่อเพื่อมาชมวัดพระธาตุหริปุนชัยพอดีกันครับในวันที่เรามาทางวัดได้จัดงานประเพณีถวายสลากย้อมพอดี.....หลังจากที่ไหว้พระเพื่อขอพรแล้วเจ้านาคาได้หลุดออกจากความวุ่นวายในใจไปแล้วเริ่มที่จะตื่นตาตื่นใจไปกับงานสลากย้อมนั่นเอง....ฝนตกยังมีวันหยุดฉันใดงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลาฉันนั้น..เราเดินทางต่อเพื่อไปทานข้าวแล้วก็เดินทางกลับถึงที่พัก...หุหุขอโทษทุกคนนะคับที่ให้รอซ็อปปิ้งเพลินไปหน่อย......
เดินทางถึงที่พักอาบน้ำอาบท่าแล้วคืนนี้สินะที่เราจะได้อยู่ด้วยกันเป็นค่ำคืนสุดท้ายวันนี้นาคาขอเป็นผู้เดินเรื่องละกันชวนพี่ๆน้องๆนั่งคัยกันหลายๆวงมีทั้งความสนุกสนานความมึนเมาความอิ่มแปร้กับผัดไทห่อใหญ่คุยกันจนเวลาล่วงเลยไปพี่น้องทยอยเริ่มกลับเข้าไปนอนเหลืออยู่ไม่กี่คนหลายคนบอกว่าวันนี้เราจะไม่นอน...เอาด้วยๆๆๆหลายๆเสียงดังตามมาเวลาล่วงเลยมาจนถึงตีสาม...น้องจ๋าพี่ไม่ไหวแล้ววววพี่ขอไปนอนก่อนละกัน..งั้นก็นอนกันหมดนี่แหละไปพักผ่อนกันพรุ่งนี้เราต้องเดินทางกันต่ออีก..จุดหมายปลายทางข้างหน้ายังมีอยู่อีก.....ค่ำคืนนี้พวกเราทุกคนเริ่มที่จะสนิทสนมกันขึ้นมากแล้วมิตรภาพเล็กๆได้ก่อเกิดขึ้นแล้วครับพีน้องครับ
รุ่งเช้ากับบรรยากาศที่..โอ้ยยไม่อยากตื่นเลยยยยพวกเราเริ่มที่จะเก็บกระเป๋าสัมภาระต่างๆเพื่อเดินทางแล้วพอเสร็จก็ทานข้าวเช้าเสร็จก็เข้าห้องประชุมเพื่อสรุปเรื่องราวต่างๆที่ๆด้จากการเปิดเวทีสัญจรครั้งนี้ พอเสร็จเราก็เริ่มที่จะร่ำลาป้าๆที่โขงสาละวินเพื่อเดินทาต่อไปยังพิพิธพันธ์จังหวัดลำพูนเพื่อที่จะพูดคุยกับเยาวชนกลุ่มต่างๆในจังหวัดลำพูนล้องรถหมุนแล้วเจ้านาคาน้องมองบรรยากาศของโขงสาละวินตอนนี้มันช่างเคว้งคว้างเหลือเกินรถแล่นไกลออกไปผมคิดในใจสักวันนึงผมจะกลับมาอีกครั้งนะ...โขงสาละวิน
เดินทางสู้พิพิธพันธ์นั่งพูดคุยกับหริปุณชัยคลับ..กลุ่มต่างๆเกี่ยวกับกิจกรรม กระบวนการทำงานด้านต่างๆรวมถึงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันในพื้นที่ต่างๆๆ...แต่ผมง่วงอะ.....เวลาเริ่มเคลื่อนคล้อยเข้าสู่เกือบบ่ายพวกเราล่ำลาพี่น้องเยาวชนจากเมืองลำพูนเพื่อเดินทางเข้าสู่เมืองเชียงใหม่เพื่อไปอาเขตพวกเราพี่น้องแวะทานข้าวกันพูดคุยกันอย่างสนุกสนานเพิ่มเติมกมิตรภาพที่เริ่มก่อตัวขึ้นตั้งแต่เมื่อคืน...หลังจากนั้นเราก็เดินทางต่อไปยังอาเขตเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนา.....ปล.ใครแอบถ่ายรูปผมไว้ส่งมาให้ด้วยนะค้าบบบบ
รถหมดแล้วคะมีอีกทีตอนห้าโมงครึ่ง....เห้ยยยซวยหละสิเอาวะยังไงก็ต้องกลับผมซื้อตัวรถแล้วหันไปดูเหล่าพี่น้องทุกคนยังอยู่ครบยกเว้นทีมพะเยาที่เดินทางกลับไปแล้วรึว่าเวลาแห่งมิตรภาพของเรายังไม่หมดสิ้นผมคิด....ระหว่างที่รอขึ้นรถก็เลยตกลงกันว่าจะเอายังไงดีท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุด...งั้นเราเข้าไปหาที่พักกันก่อนแล้วก็ไปเดินเล่นที่ถนนคนเดินในเชียงใหม่กัน...ตกลงตามนี้เหมือนที่ผมบอกแหละครับห้วงเวลาแห่งมิตรภาพเรายังไม่หมด....เวลาล่วงเข้ามาถึงสี่โมงผมทิ้งสหายผมไว้ที่เชียงใหม่กับทีมภาคใต้เพราะว่าตั๋วรถไม่มีแล้วจริงๆสหายผมจึงต้องกลับบ้านในเช้าวันรุ่งขึ้น...ผมร่ำลาทุกคน..จะมีใครรู้มั้ยว่าเวลาที่เราจะจากกันนั้นมันลำบากที่จะพูดออกมานะผมยังไม่อยากกลับ อยากหยุดเวลาตรงนี้ไว้......เข็มนาฬิกาเดินอยู่ชีวิตของเราคงต้องเดินต่อไป..ผมเดินทางมุ่งหน้าสู่จังหวัดเชียงรายโดยสวัสดิภาพ........
หลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่ได้พบได้เจอะได้เจอได้นำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันแต่ผมว่าสิ่งที่ได้เรียนรู้มันยังไม่มากพอเท่ากับมิตรภาพดีๆของเหล่าพี่น้องแต่ละภาคพวกเราไม่ได้พูดภาษาเดียวกันแต่เราคนไทยเหมือนกันครับ แตกต่างแต่ไม่แตกแยก ผมชอบนะคับคำพูดนี้ของน้องๆจากพะเยานี่แหละครับจะมีใครสักกี่คนที่จะรู้ว่าขณะนี้มิตรภาพเล็กๆได้เกิดขึ้นในใจของหลายๆคนแล้ว...สักวันนึงเราจะได้กลับมาพบกันอีกนะครับผมเชื่อเช่นนั้น
ขอบคุณพี่ๆทีมงานที่ทำให้เราได้มาเจอกัน
ขอบคุณโขงสาละวินที่มอบสิ่งดีๆอาหารอร่อยให้พวกเรา
ขอบคุณป้า???แห่งบ้านจำขี้มดสำหรับเห็ดนึ่งอร่อยๆๆ
ขอบคุณพี่น้องร่วมอุดมการณ์มีมอบมิตรภาพดีๆให้กัน
ขอบคุณพี่น้องจากลำพูนสำหรับข้อมูลในด้านต่างๆ
ขอบคุณ พี่ปาน พี่จันทร์ ครูดี พี่เอ็ม พี่กุ้ง พี่ลูกน้ำ พี่หนูดี พี่เชนท์พร้อมสหาย น้องๆจากอีสาน
น้องๆจากนครสวรรค์ น้องๆจากพะเยา และอีกหลายๆคน..........................................................................
มิตรภาพจะยังคงอยู่ในใจเรา
นาคา
กิจกรรมขับเคลื่อนโครงการ
เรื่องเล่าจากชาวนาคา โดย วีรยุทธ ไชโย (ต๊ะ) เยาวชนรักษ์ถิ่น เชียงของ
ความเป็นมา วัตถุประสงค์