น้ำหมักพอเพียง หลีกเลี่ยงโลกร้อน
วัตถุประสงค์ในการทำน้ำหมักพอเพียง หลีกเลี่ยงโลกร้อน
1. เพื่อลดขยะเปียกที่มีมากในฤดูกาลไม่ให้เน่าเสีย โดยนำมาหมักเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุด
2. เพื่อศึกษาเปรียบเทียบน้ำหมักพอเพียงใช้ประโยชน์ทดแทนสารเคมีในชีวิตประจำวัน
3. เพื่อศึกษากระบวนการหมักผักผลไม้ตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ประโยชน์
1. เพื่อลดขยะเปียกที่มีมากในฤดูกาลไม่ให้เน่าเสีย เกิดปัญหาและสร้างแก๊สที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนแก่สิ่งแวดล้อม
2. ลดการใช้สารเคมีในชีวิตประจำวัน แต่พึ่งพาตนเองโดยใช้น้ำหมักที่มีคุณสมบัติเดียวกัน
3. เพื่อส่งเสริมการใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการศึกษา ค้นคว้า และทดลอง
วิธีหมัก
สูตรน้ำหมัก คือ 1:3:5 ได้แก่
- น้ำตาลอ้อยป่น 1 กิโลกรัม
- ผักหรือผลไม้ 3 กิโลกรัม
- น้ำสะอาดที่ปราศจากคลอรีน 5 กิโลกรัม/ลิตร
ผักหรือผลไม้ล้างให้สะอาดปราศจากสารเคมีตกค้าง ละลายน้ำตาลในน้ำ แล้วนำผักผลไม้ที่ทำความสะอาดแล้ว ลงแช่ในสารละลายน้ำตาลในถังหมักที่มีฝาปิดมิดชิด ระยะแรกๆคอยกดผักผลไม้ให้จมน้ำ และเปิดฝาถังเพื่อระบายแก๊สที่เกิดขึ้น และปิดฝาไว้เช่นเดิม หมักไว้ 4 เดือนขึ้นไปสามารถใช้อุปโภคได้ เช่น ใช้ล้างจาน เช็ดทำความสะอาดคราบไขมัน ถูพื้น ล้างห้องน้ำ เช็ดกระจก ล้างรถ ซักผ้า น้ำผสมน้ำหมักที่ใช้ประโยชน์แล้วยังสามารถนำไปรดต้นไม้เป็นปุ๋ยชีวภาพได้ด้วย เทลงท่อระบายน้ำไม่ทำให้น้ำเน่า แต่เพิ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ช่วยสลายสารอินทรีย์ในน้ำลดการเน่าเสียของน้ำ ฯลฯ
คุณสมบัติของน้ำหมัก
- มีรสเปรี้ยว
- ค่าความเป็นกรดเบสประมาณ 2-4
- สีเหลืองถึงน้ำตาลอมแดงขึ้นอยู่กับสีของน้ำตาลและผัก
ผลไม้ที่ใช้หมัก
กลิ่นเหม็นเปรี้ยวเหมือนกรดน้ำส้มหรืออาจมีความหอมตามกลิ่นเดิมของผักผลไม้ที่ใช้หมัก และอาจมีกลิ่นแอลกอฮอล์ปนอยู่บ้างขึ้นอยู่กับระยะเวลาการหมัก
การใช้งาน
โดยผสมน้ำหมัก 1 ส่วนต่อน้ำสะอาดประมาณ 10 ส่วนและยังขึ้นอยู่กับลักษณะการนำไปใช้ประโยชน์เช่น การล้างจาน การเช็ดทำความสะอาดคราบไขมัน ล้างห้องน้ำ เช็ดกระจก ต้องผสมน้ำน้อยลงเพื่อให้ของเหลวเข้มข้นยิ่งขึ้น แต่การล้างรถ ซักผ้า ผสมให้เจือจาง
ถอดบทเรียนสิ่้งที่ได้เรียนรู้จากการทำกิจกรรม
3 ห่วง
ความพอประมาณ
• เหมาะสมกับปริมาณการใช้น้ำหมัก สถานที่ที่ใช้หมักผัก ผลไม้
• สอดคล้องกับฤดูกาลของผัก ผลไม้ใกล้ตัวในท้องถิ่น
• เหมาะสมกับงบประมาณ เวลา และจำนวนผู้ดูแล
มีภูมิคุ้มกัน
• เป็นทางเลือก ลดการใช้สารเคมี โดยนำน้ำหมักมาใช้แทน
• มีความปลอดภัย เพราะหมักเอง ใช้เอง ตามสูตรโบราณ
• รู้จักแก้ไขปัญหาและพึ่งพาตนเอง เกิดนิสัยพอเพียง
• สืบสานภูมิปัญญาไทยในการหมักให้คงอยู่สืบไป
• เกิดการพึ่งพาตนเอง
ความมีเหตุผล
• น้ำหมัก พืช ผัก ผลไม้ใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวาง
• ใช้พืช ผัก ผลไม้ในท้องถิ่น ตามฤดูกาล ที่มีมาก ล้นตลาดให้เกิดประโยชน์สูงสุด คุ้มค่า โดยการหมัก
• ลดภาวะโลกร้อนจากปริมาณขยะเปียกในชุมชน
2 เงื่อนไข
เงื่อนไขความรู้
• มีความรู้เกี่ยวกับ การหมัก ข้อควรระวังและความปลอดภัยในการใช้น้ำหมัก ประโยชน์ของพืช ผัก ผลไม้ ในท้องถิ่น
• แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆที่หลากหลาย เช่น อินเทอร์เน็ต หนังสือ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ปราชญ์ชาวบ้าน ฯลฯ
เงื่อนไขคุณธรรม
• เห็นคุณค่าและ ประโยชน์ของน้ำหมัก พืช ผัก และ ผลไม้ ในท้องถิ่น
• ประหยัด และ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แบ่งปัน ด้านความรู้ และแบ่งปันผลผลิตคือ น้ำหมัก
• เกิดความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาไทยเกี่ยวกับ การหมัก ประโยชน์ของน้ำหมัก พืช ผัก และ ผลไม้ ในท้องถิ่น
4 มิติ
• ด้านวัตถุ ใช้พืช ผักและผลไม้ ในท้องถิ่นตามฤดูกาลให้เกิดประโยชน์สูงสุด คุ้มค่า
• ด้านสังคม แบ่งปันและเผยแพร่ความรู้ ประโยชน์ของน้ำหมักให้แพร่หลาย
• ด้านสิ่งแวดล้อม ลดขยะเปียกที่เกิดจากพืช ผัก ผลไม้ตามฤดูกาลที่ล้นตลาดช่วยลดภาวะโลกร้อน
• ด้านวัฒนธรรม สืบสานวัฒนธรรมการหมักของไทย และประยุกต์ให้เกิดความหลากหลายโดยใช้ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี