การทำงานในชุมชนต้องอาศัยองค์ประกอบหลายส่วน มีผู้นำต้องมีผู้ตาม มีผู้ใหญ่ก็ต้องมีเยาวชนมาช่วยสร้างสีสัน สร้างการเรียนรู้ร่วมกัน อนาคตต้องได้รับการสืบต่อจากอดีต เยาวชนในทอนก็เช่นกัน จะต้องมารับช่วงต่อจากคนรุ่นเก่า
เวทีทำความเข้าใจเพื่อพัฒนาโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชนบ้านในทอน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ครั้งที่ 2
ณ ที่ทำการศาลาเอนกประสงค์หมู่ 11 ต.สุโสะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง
20 กรกฎาคม 2555
วัตถุประสงค์
- เพื่อทำความเข้าใจโครงการ
- เพื่อหาแนวทางการประกอบอาชีพที่เหมาะสมกับชุมชน และเป็นการทำงานแบบมีส่วนร่วม
ผู้ร่วมประชุม
ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย อบต. กลุ่มเยาวชน คนที่ใช้ประโยชน์จากป่าชายเลน กลุ่มแม่บ้าน สกว. รวม 26 คน
กระบวนการ
ให้แต่ละคนแนะนำตัวเอง งานที่ทำ และในทอนมีอะไรดี
ทีมวิจัยเดิม แนะนำโครงการที่ได้ทำมาแล้ว สิ่งที่ได้รับ ปัญหาอุปสรรค
เปิดให้มีการแลกเปลี่ยน คนรุ่นใหม่กับคนรุ่นเก่า
สรุป
บ้านในทอนได้รับการสนับสนุนจากสกว.ฝ่ายท้องถิ่น 2 โครงการ คือโครงการอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านในทอนและโครงการการจัดการความรู้บ้านในทอน และอีกโครงการคือโครงการยุติธรรมตำบลสุโสะ ในฐานะเป็นพื้นที่และเป็นทีมวิจัยร่วม ดังนั้นการทำงานกับสกว.ที่ผ่านมาถือว่าชุมชนและคนบ้านในทอนได้ประโยชน์มากมาย หลายสิ่งหลายอย่างเป็นผลพวงจากการทำวิจัยกับสกว. ช่วงที่มีการทำวิจัยกับสกว.พวกเราคนในชุมชนคึกคัก มีการประชุมปรึกษาหารือเรื่องต่างๆ กันเรื่อยๆ เพราะไม่ใช่แค่ทำวิจัยแต่ในชุมชนมีปัญหาอะไรเราก็มานั่งปรึกษาหารือกันผ่านวงของสกว. เพราะสกว.เป็นตัวกลางให้พวกเราได้พูดคุยกันอย่างเปิดอก
หลังจากเสร็จโครงการวิจัยกับสกว. พวกเราไม่มีโอกาสมานั่งปรึกษาหารือนั่งคุยกันเหมือนแต่ก่อน ไม่เคยได้คุยกันเลย ตอนนี้ทุกคนมุ่งทำกินของตัวเอง จนรู้สึกว่าชุมชนบ้านในทอนเริ่มจะแย่ลง ถ้าสกว.จะเข้ามาหนุนต่อ พวกเราก็ยินดี เพราะพวกเรากันเองคุยกันไม่ได้ จำเป็นต้องมีตัวกลาง และที่ทำไปทั้งหมดก็ทำเพื่อลูกหลานคนในทอน
บ้านในทอนมีของดีแต่คนนอกไม่ค่อยรู้ บ้านเรามีทั้งทรัพยากร ภูมิปัญญา มีความรู้ แต่การจะขยับขับเคลื่อนอะไรก็ต้องมาปรึกษากันก่อน จ๊ะสาวบอกว่า เมื่อต้นเดือนมิถุนายน ได้ประชุมร่วมกันไปแล้วครั้งหนึ่ง ว่าอยากทำกระชัง อยากเลี้ยงสายไว้ในกระชัง เลี้ยงปลา แล้วก็ทำที่ประชุมแบบลอยน้ำ เพราะที่บ้านเรามีความเหมาะสมเป็นอย่างมาก สายสมบูรณ์มีทั้งปี เราสามารถรองรับนักท่องเที่ยวหรือรองรับการเป็นที่ประชุมไปด้วย บรรยากาศก็ดี ไม่มีเสียงรบกวน อาหารทะเลบ้านเราก็สด สั่งได้ หาได้ ไม่ต้องไปไกล มีอยู่แล้วในป่าชายเลน แต่เราตอนนี้ทุกคนเช้าก็ออกนอกบ้านไปตัดยาง ไปสวนปาล์ม เด็กวัยรุ่นก็ไม่ค่อยได้เรียน หลายคนออกมาทำงานอยู่กับบ้าน ทำงานกับพ่อแม่ แม้จะอยู่ได้ แต่พวกเราก็อยากมีอะไรที่พัฒนาชุมชนมากกว่านี้ ป่าชายเลนบ้านเราสวยมาก เราภูมิใจที่รักษาป่าผืนนี้ไว้ แต่คนตรังยังไม่ค่อยรู้จักบ้านในทอน แม้กระทั่งคนในตำบลเดียวกัน ก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ จะมีก็แต่เครือข่ายวิจัย ที่รู้จักพวกเราดีทั้ง 4 ภาค เพราะเขามาเที่ยวบ้านเราตอนที่เราทำวิจัย
จากการพูดคุยในที่สุดได้ข้อสรุปว่า จะทดลองเลี้ยงสายในกระชัง เลี้ยงปลาไปด้วย และค่อยขยับทำที่ประชุมลอยน้ำ แต่หลังจากนี้พี่เลี้ยงต้องไปหาพื้นที่ที่มีการเพาะเลี้ยงสาย เพื่อหาความรู้ก่อน แล้วค่อยมาทดลอง หลังจากนั้นจะวางแผนการทำงานร่วมกัน แล้วค่อยขยับไปเรื่อยๆ ตอนนี้คนเฝ้ากระชังมีแล้ว เพราะกลุ่มวัยรุ่นเขารวมตัวกันอยู่แล้ว ถ้ามอบหมายให้เขารับผิดชอบน่าจะทำได้ อีกอย่างจะได้ป้องกันวัยรุ่นนอกหมู่บ้านเข้ามาเพ่นพ่านในชุมชนด้วย
สำหรับพิพิธภัณฑ์เตาถ่าน ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าทางอบจ.จะดำเนินการต่ออย่างไร แต่อยากให้โอนให้อยู่ในการดูแลของอบต.หรือของชุมชน เพราะอบจ.มีแค่งบฯ แต่ความรู้หรือการจัดการอย่างอื่นต้องเป็นคนในชุมชน ตอนนี้ก็ทรุดโทรมไปเรื่อยๆ แม้จะยังไม่ได้มีการเปิดอย่างเป็นทางการ
หลังจากนี้อยากให้กลุ่มเยาวชน คนในชุมชน กลับไปลองคิดลองคุยกันต่อ เพื่อจะได้หาทางออกร่วมกันที่เหมาะสม สำหรับการหนุนเสริมครั้งนี้เป็นการต่อยอดจากโครงการสึนามิ แต่ต้องการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน โดยเฉพาะเรื่องอาชีพ เพราะฉะนั้นงบประมาณจะได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิสยามกัมมาจล ผ่านมาทางมูลนิธิวิจัยเพื่อท้องถิ่น แล้วส่งต่อมายังnode 3 จังหวัดในภาคใต้ คือ ตรัง สตูล ระนอง โครงการมีระยะ 3 ปี แบ่งเป็น 2 เฟส งบประมาณเช่นเดียวกับสกว. เป็นการต่อยอดที่เน้นเชิงรูปธรรม โดยใช้ข้อมูลที่เคยศึกษามาวิเคราะห์ วางเป้าหมาย วางทิศทาง กำหนดความต้องการให้ชัดเจน ที่สำคัญยังคงเน้นการพัฒนาคนและการมีส่วนร่วมเหมือนเดิม วางแผนและปฏิบัติการเพื่อให้เกิดประโยชน์สำหรับคนในชุมชน และยั่งยืน